พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งมีแนวเส้นทางเริ่มต้นที่บริเวณเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 9 กับทางหลวงหมายเลข1 (ถนนพหลโยธิน) ที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นแนวเส้นทางใหม่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 1(ถนนพหลโยธิน) และทางหลวงหมายเลข2 (ถนนมิตรภาพ) และมีจุดสิ้นสุดบรรจบกับทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา รวมระยะทาง 196 กิโลเมตร ใช้วงเงินลงทุนรวม 84,600 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายในปี 63
ทั้งนี้ เมื่อก่อสร้างโครงการนี้แล้วเสร็จ จะช่วยเสริมศักยภาพด้านคมนาคมขนส่งทางถนนและระบบโลจิสติกส์ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพหลโยธินและถนนมิตรภาพ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวซึ่งมีปริมาณการจราจรหนาแน่นเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้บริการในเส้นทางนี้ และยังช่วยกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้เร่งรัดประมูลโดยมอเตอร์เวย์สาย 6 (บางปะอิน-โคราช) ระยะทาง 196 กม.วงเงิน 76,600 ล้านบาท แบ่ง 40 สัญญา โดยประมูลในปีงบประมาณ 59 จำนวน 25 สัญญา และปีงบประมาณ 60 อีก 15 สัญญา ใช้เวลาก่อสร้าง 36 เดือนแล้วเสร็จในปี 63 ซึ่งอาจจะพิจารณาเปิดให้บริการเป็นช่วงๆ ที่ก่อสร้างเสร็จก่อน
สำหรับการก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ช่วง ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ ช่วงที่ 1 ก่อสร้างเป็นทางหลวงพิเศษขนาด 6 ช่องจราจร จากบางปะอิน (กม. 0+000) ถึง อ.ปากช่อง (กม. 103+000) ระยะทาง 103 กิโลเมตร และ ช่วงที่ 2 ก่อสร้างเป็นทางหลวงพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร จาก อ.ปากช่อง (กม. 103+000) ถึง นครราชสีมา (กม. 196+000) ระยะทาง 93 กิโลเมตร
รูปแบบการก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นทางระดับพื้น แต่จะมีทางยกระดับ 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงทางเลี่ยงเมืองสระบุรี (ระหว่าง กม. 40+300 – 47+000) ระยะทาง 7 กิโลเมตร ,ช่วงพื้นที่สัมปทานปูนซีเมนต์ TPI (ระหว่าง กม. 69+000 –75+700) ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ,ช่วงเขาตาแป้น (ระหว่าง กม. 81+600 –85+250) ระยะทาง 2.3 กิโลเมตร และช่วงเลียบอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (ระหว่าง กม. 125+400 –143+040) ระยะทาง 17.3 กิโลเมตร รวมระยะทางที่ก่อสร้างเป็นทางยกระดับทั้งสิ้น 32.1 กิโลเมตร
ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 มีเขตแนวเขตทาง 70 เมตร ความกว้างช่องจราจร ช่องละ 3.60 เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร และ 6 ช่องจราจร มีการควบคุมการเข้า – ออกแบบสมบูรณ์ (รั้วกั้น) ตลอดทาง โดยใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางระบบปิด (บันทึกข้อมูล/รับบัตรที่ด่านขาเข้า และจ่ายค่าผ่านทางตามระยะที่ด่านขาออก) ซึ่งมีด่านจัดเก็บค่าผ่านทางทั้งหมด จำนวน 9 ด่าน ได้แก่ ด่านบางปะอิน ด่านวังน้อย ด่านหินกอง ด่านสระบุรี ด่านแก่งคอย ด่านมวกเหล็ก ด่านปากช่อง ด่านสี่คิ้ว และด่านนครราชสีมา
มีจุดทางแยกต่างระดับที่เชื่อมต่อกับทางหลวง จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ ทางต่างระดับบางปะอิน ทางต่างระดับวังน้อย ทางต่างระดับหินกอง ทางต่างระดับสระบุรี ทางต่างระดับแก่งคอย ทางต่างระดับมวกเหล็ก ทางต่างระดับปากช่อง ทางต่างระดับสีคิ้ว และทางต่างระดับนครราชสีมา
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่บริการทางหลวง (Service Area) จำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย ที่พักริมทางหลวง (Rest Area) จำนวน 5 แห่ง สถานีบริการทางหลวง (Service Area) จำนวน 2 แห่ง และศูนย์บริการทางหลวง (Service Center) จำนวน 1 แห่ง ซึ่งจะทำการทดสอบความสนใจภาคเอกชน (Market Sounding) รับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนเพื่อศึกษารูปแบบร่วมลงทุนที่เหมาะสม เพื่อสร้างรายได้กลับคืนโครงการ ซึ่งนโยบายของนายกฯ และรองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้มีการสนับสนุนสินค้า พื้นเมือง ในท้องถิ่น นำมาพัฒนาสร้างจุดแข็ง ดึงดูดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนระบบบริหารจัดการและงานบำรุงรักษา (O&M) ซึ่งจะให้เอกชนร่วมลงทุนตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ PPP ได้ภายในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีการทบทวนแผนแม่บทมอเตอร์เวย์ระยะ 20 ปี โดยจะมี 21 สายทาง ระยะทาง 6,612 กม. ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเร็ว ๆ นี้