นางชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 4/2559 ว่า ที่ประชุม นบข.มีมติเห็นชอบแผนการผลิตและแผนตลาดข้าวครบวงจร โดยจะมีการลดพื้นที่ลดรอบการปลูกข้าวเพื่อป้องกันข้าวล้นตลาด และมีมาตรการดึงข้าวออกจากตลาดเพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำ โดยให้สหกรณ์ซื้อเก็บ คาดว่าจะมีการดึงข้าวออกจากระบบประมาณ 6-8 ล้านตันข้าวเปลือก เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวกระจุกตัว และมีการกำหนดจุดรับซื้อข้าวในบริเวณที่มีปริมาณผลผลิตน้อยในช่วงปลายเดือน พ.ย.-ต้นเดือน ธ.ค.
นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการเจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งมีหลายประเทศแสดงความสนใจที่จะร่วมประมูลข้าวทั้งฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย เป็นต้น ซึ่งขณะนี้มีข้าวอยู่ในสต็อกของรัฐบาลจำนวน 9.1 ล้านตัน โดยมีแผนเปิดประมูลขายข้าวอีกครั้งในช่วงเดือน ส.ค. แต่ยืนยันว่าจะเป็นประมูลขายข้าวตามราคาตลาด หากได้ราคาต่ำกว่าราคาตลาดก็จะไม่ขาย
ส่วนราคาข้าวในปัจจุบันราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และราคายังสูงกว่าข้าวของเวียดนามประมาณ 70 เหรียญสหรัฐ โดยข้าวสาร 5% ราคาอยู่ที่ 13,900-14,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือก 5% ราคาอยู่ที่ 8,500-9,500 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคา 13,000-14,850 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลิ ราคา 10,400-12,500 บาทต่อตัน