กลุ่มเชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ระบุว่าเชฟรอนมีการทบทวนพอร์ตการลงทุนในทุกภูมิภาคทั่วโลกอยู่เป็นระยะ ซึ่งในขณะนี้ บริษัทกำลังมองหาความเป็นไปได้ของความสนใจลงทุนโครงการอาทิตย์ในอ่าวไทย ที่บริษัทถือหุ้นแบบไม่ได้เป็นผู้ดำเนินงานอยู่ร้อยละ 16 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้มีการตัดสินใจที่จะขายหุ้นดังกล่าว โดยบริษัทจะดำเนินการในเรื่องนี้ก็ต่อเมื่อมีข้อเสนอที่เหมาะสมและน่าสนใจเท่านั้น
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทเน้นให้ความสำคัญกับโครงการที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินงาน และสินทรัพย์ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนที่สูง โดยเชฟรอนเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยยุคบุกเบิกของการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศ และยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยสนับสนุนการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศต่อไปในระยะยาว
อย่างไรก็ตามเชฟรอนไม่มีนโยบายในการให้ความเห็นหรือตอบคำถามอันเนื่องมาจากข่าวลือหรือการคาดเดาเกี่ยวกับการควบรวมกิจการหรือการขายสินทรัพย์ของบริษัท โดยเชฟรอนยังคงมุ่งมั่นในการจัดหาพลังงานด้วยความปลอดภัย เชื่อถือได้ และตอบโจทย์ความต้องการระยะยาวของเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกนี้ต่อไป ด้วยการดำเนินงานในโครงการต่างๆ อันหลากหลายอย่างแข็งแกร่ง และบทบาทอันเข้มเข็งของเชฟรอนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนธุรกิจ ต่อยอดการเติบโตในธุรกิจหลัก และขยายบทบาทในภูมิภาคได้อย่างมั่นคงต่อไป
อนึ่ง เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวว่า เชฟรอน คอร์ป เตรียมขายสินทรัพย์ในเอเชียเป็นมูลค่าถึง 5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มเงินสดหมุนเวียน โดยในเดือนนี้ เชฟรอนจะเริ่มขายสินทรัพย์ของบริษัทในบริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันนอกชายฝั่ง ที่เชฟรอนร่วมทุนกับบริษัท CNOOC ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน โดยเชื่อว่าการขายสินทรัพย์ครั้งนี้จะทำให้เชฟรอนได้รับเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์
การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของเชฟรอนในการเดินหน้าถอนการลงทุนในเอเชีย โดยเชฟรอนตั้งเป้าที่จะระดมเงินทุนจากการขายสินทรัพย์ทั่วโลกให้ได้ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากการขายกิจการในอุตสาหกรรมระดับต้นน้ำในเอเชีย นอกจากนี้ บริษัทยังมีจุดประสงค์ที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและปรับตัวให้เข้ากับสภาวะราคาน้ำมันที่ตกต่ำ