นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 26/2559 มีคำสั่งให้ปรับทางปกครองรายการเผชิญหน้า Face Time ทางช่องสปริงนิวส์ อัตรา 50,000 บาท
เนื่องจากการออกอากาศรายได้เมื่อวันพุธที่ 20 ก.ค.59 มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากเป็นการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ตามข้อ 1 ของคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 41/2559 ลงวันที่ 13 ก.ค.2559 เรื่อง การกำกับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสท.มีคำสั่งเตือนทางปกครอง บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด กรณีการออกอากาศรายการ Tonight Thailand เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2559 มีลักษณะเป็นการต้องห้ามมิให้ออกอากาศ ตามประกาศ คสช. อีกทั้งเป็นการขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลง ลงวันที่ 4 มิ.ย.2558 ระหว่างสำนักงาน กสทช. กับบริษัทในฐานะผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ช่องรายการ VOICE TV โดยเห็นสมควรมีคำสั่งเตือนให้ระงับการออกอากาศที่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศ หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวจะใช้มาตรการบังคับทางปกครองต่อไป
ด้านความคืบหน้ากรณี บริษัท ซีทีเอช เคเบิ้ล ทีวี จำกัด ยุติการออกอากาศ ที่ประชุม กสท.มีมติมอบหมายให้ สำนักงาน กสทช. มีหนังสือให้จัดทำแผนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ (ลูกค้า) ภายหลังจากการยุติการให้บริการ พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูล ได้แก่ จำนวนลูกค้าที่รับบริการในทุกประเภทการให้บริการและจำนวนช่องรายการที่ออกอากาศบนโครงข่ายของบริษัทฯ นำเสนอต่อ กสท. เพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบแผนมาตรการเยียวยา ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง
หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวจะใช้มาตรการทางปกครองกำหนดโทษปรับวันละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฎิยัติตามคำสั่ง และเมื่อพ้นเวลาดังกล่าวแล้วบริษัทยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอยู่อีกจะใช้มาตราการทางปกครองที่สูงขึ้นต่อไป
พร้อมกันนี้ให้ บริษัทชี้แจงการดำเนินการหรือแผนการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (ช่องรายการ) กรณีที่มีการยุติการให้บริการโครงข่ายของบริษัท และให้บริษัทแจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายที่ใช้ในการออกอากาศ กรณีที่บริษัทประสงค์จะประกอบกิจการดังกล่าวต่อไป ให้ กสท. ทราบก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
ต่อมา ที่ประชุม กสท.ได้มีคำสั่งทางปกครอง กรณีบริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ยุติการให้บริการผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม ระบบ Ku-Band ในวันที่ 1 ส.ค.59 ก่อนที่จะได้รับอนุญาตจาก กสท. โดยให้บริษัทจัดทำแผนมาตรการเยียวยาผู้บริโภคเพิ่มเติมให้เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบมาเสนอให้ กสท.เพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบแผนเยียวยาภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว จะใช้มาตรการทางปกครองกำหนดโทษปรับวันละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วบริษัทยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 7 วัน และหากยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอยู่อีกจะใช้มาตรการทางปกครองสั่งเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
ที่ประชุม กสท.มติที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.มีคำสั่งทางปกครองให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด จัดทำแผนมาตรการเยียวยาผู้บริโภคเพิ่มเติมให้เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบ เสนอให้ กสท.เพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบแผนเยียวยา ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว จะใช้มาตรการทางปกครองกำหนดโทษปรับวันละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วบริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 7 วัน และหากยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอยู่อีก จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งเพิกถอนใบอนุญาต