นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้คาดว่าจะยังเติบโต 7% จากปีก่อน แม้ว่าจะเติบโตลดลงจากปีก่อนที่เติบโต 9% โดยมีสินเชื่อคงค้างประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยของทั้งระบบในสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท
การขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้ที่ลดลงเป็นผลมาจากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นมาก ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยหลังจากสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มีความต้องการลดลง และมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าแนวโน้มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะมีการเปิดตัวโครงการเป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งปีหลัง แต่แนวโน้มของการขายที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังยังมองว่าเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่กังวลและเป็นห่วงว่าจะมีแนวโน้มตกต่ำลงอย่างแรง
ทั้งนี้ ทิศทางหลังมีความชัดเจนทางการเมืองในเรื่องผลประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญแล้วนั้น จะทำให้ผู้ประกอบการจะเริ่มทยอยเปิดโครงการใหม่มากขึ้น โดยโครงการที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆจะต้องมีการกระตุ้นยอดขายอย่างมาก เพื่อให้เข้าถึงและได้ยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำหรับการจัดจัดงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี 2016 ระหว่างวันที่ 18-21 ส.ค. 59 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในคอนเซ็ปต์ "ซื้อได้เกินคุ้ม" โดยในปีนี้มีการรวบรวมโครงการกว่า 300 โครงการบ้านจัดสรรและโครงการคอนโดมิเนียม บ้านมือสอง บ้าน NPA ทำเลศักภาพ จาก 9 สถาบันที่เข้าร่วมงาน พร้อมเงื่อนไขพิเศษจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงาน โดยสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยเชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาไทยให้ดียิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมาภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไนประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ความมั่นใจและการตัดสินใจซื้อชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ทำให้จำนวนยูนิตที่เหลือขายมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งงานนี้จะเป็นอีกงานที่เป็นการระบายสต๊อกของผู้ประกอบการออกมาและมีการเสนอโปโมชั่นพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้า ทั้งนี้สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อภายในงานในปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงหรือมากกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยปีก่อนมียอดปล่อยสินเชื่อภายในงานดังกล่าวทั้งหมด 1.35 หมื่นล้านบาท และสามารถทำยอดขายบ้าน คอนโดมิเนียม และ NPA ได้ใกล้เคียงหรือมากกว่าปีก่อนที่ 3 พันล้านบาท
นายอลงกต บุญสมาสุข เลขาธิการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยและผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อธุรกิจขนาดย่อม ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า อัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเพิ่มเล็กน้อยจากช่วงสิ้นปีก่อน โดยมาอยู่ที่ 50% ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ประกอบกับสถาการณ์ของสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารมีมาตรการที่เข้มงวดในการคัดกรองลูกค้าที่เข้ามาขอสินเชื่ออย่างเข้มงวด ซึ่งส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อในครึ่งปีแรกปรับเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนเล็กน้อย
ส่วนแนวโน้มอัตราการปฏิเสธสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงจากครึ่งปีแรกได้ โดยจะต้องติดตามเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและความมั่นใจของประชาชน รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการเปิดตัวว่าจะมีความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าและภาะเศรษฐกิจในช่วงนั้นหรือไม่ อีกทั้งจะต้องดูเงื่อนไขการกู้ของแต่ละธนาคารจะมีการผ่อนคลายมากน้อยแค่ไหน และการออกแคมเปญจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และธนาคารต่างๆ
ทั้งนี้มองว่าทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น จากแผนการเปิดโครงการใหม่จำนวนมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรกของผู้ประกอบการปสังหาริมทรัพย์ หลังจากมีความมั่นใจมากขึ้นจากแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยที่มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวและการขยายและการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆอย่างจริงจังของภาครัฐ อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนและอยู่ในระดับที่ไม่สูง ทำให้เป็นแรงจูงใจของผู้ที่สนใจจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ไนช่วงครึ่งปีหลัง สำหรับภาพของที่อยู่อาศัยตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจะเห็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่รองรับสำหรับผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามกระแสของการออกแบบที่อยู่อาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ใช้ในการเดินทางให้สามารถรองรับผู้สูงอายุได้ เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยเริ่มมีแนวโน้มที่สูงขึ้น