"สมคิด" จี้รสก.ขนาดใหญ่เร่งเบิกจ่ายงบลงทุน-เดินหน้าโครงการลงทุนใหม่ เพื่อช่วยขับเคลื่อนศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 10, 2016 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2559 กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐวิสาหกิจมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ซึ่งการประชุมในวันนี้เพื่อติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2559 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และผลักดันการลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2560 ให้เร็วขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2559 ขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้าตรวจเยี่ยมรัฐวิสาหกิจทุกเดือน เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมอบนโยบายเพื่อเร่งรัดการลงทุนของรัฐวิสาหกิจดังนี้

1.ให้รัฐวิสาหกิจเร่งการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2559 ให้มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้

2.ขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งทำแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2560 โดยแบ่งเป็น โครงการปกติและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ให้เลื่อนการลงทุนให้เร็วขึ้น (Front load) ทั้งนี้ ขอให้เน้นให้มีการเบิกจ่ายในไตรมาสที่ 1 ให้มากขึ้น

3.มอบหมายให้ สคร. แจ้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจให้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาผลการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ

4.มอบหมายให้ สคร. แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อติดตามการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอย่างใกล้ชิด

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2559 รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของ สคร.ที่มีงบลงทุน 45 แห่ง ได้รับความเห็นชอบในวงเงินลงทุน 304,639 ล้านบาท โดยกำหนดให้เบิกจ่าย 95% ของกรอบวงเงินลงทุน โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงเดือนก.ค.59 สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 131,081 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 79% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โดยรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีงบประมาณ สามารถเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่เดือนต.ค.58 - ก.ค.59 ได้จำนวน 70,764 ล้านบาท หรือคิด 76% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม และรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีปฏิทินสามารถเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่เดือนม.ค. - ก.ค.59 ได้จำนวน 60,317 ล้านบาท หรือคิดเป็น 84% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม

โดยในวันนี้ได้เชิญรัฐวิสาหกิจที่มีมูลค่าการลงทุนขนาดใหญ่จำนวน 17 แห่ง ซึ่งมีวงเงินลงทุนจำนวน 289,634 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 96% ของวงเงินลงทุนรวมของรัฐวิสาหกิจ เข้ามาร่วมประชุม โดยรัฐวิสาหกิจที่มีผลการเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) การประปานครหลวง (กปน.) และการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ขณะที่รัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงปัจจุบัน มีรัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง ที่มีแผนงานและโครงการที่ดำเนินการได้เร็วกว่าแผนประมาณ 2,569 ล้านบาท เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีเขียวได้เร็วกว่าแผนประมาณ 380 ล้านบาท และ 1,154 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ มีแผนงานและโครงการลงทุนใหม่ของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง ที่คาดว่าจะลงทุนเพิ่มเติมได้ในปี 2559 ได้ประมาณ 2,700 ล้านบาท เช่น โครงการบรอดแบนด์ความเร็วสูง 1.6 ล้านพอร์ต ของ บมจ.ทีโอที วงเงินโครงการประมาณ13,662 ล้านบาท คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ 1,004 ล้านบาท และโครงการลงทุนของ บมจ.ปตท. (PTT) คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ 1,401 ล้านบาท

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า สคร. ควรร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแผนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจสำหรับปีงบประมาณ 2560 ในรายละเอียด เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการลงทุนของประเทศในปี 2560 รัฐวิสาหกิจและบริษัทในเครือต้องพิจารณานำโครงการใหม่ที่สามารถดำเนินการได้ในปี 2560 เร่งเบิกจ่ายให้ได้โดยเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ