นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้หารือทวิภาคีกับ H.E.Mr. Todd McClay รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของนิวซีแลนด์ และการหารือกับ H.E. Mr. Steven Ciobo รัฐมนตรีกระทรวงการค้า ท่องเที่ยว และการลงทุนของออสเตรเลีย ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
โดยนิวซีแลนด์ได้สอบถามความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องการเพิ่มโควต้านำเข้าสินค้าเกษตรอ่อนไหวของไทย ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP) โดยไทยแจ้งว่า อยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถของภาคเกษตรกรรมของไทย อาทิ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการบริหารจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเปิดตลาดสินค้าดังกล่าวในปี 2563
นอกจากนี้ ไทยและนิวซีแลนด์เห็นพ้องกันที่จะผลักดันการเจรจาเรื่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เพื่อให้สามารถสรุปผลได้ภายในปีนี้ตามที่ผู้นำประเทศ RCEP ได้ประกาศเป้าหมายไว้ โดย RCEP จะเป็นความตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยประชากรกว่า 3,000 ล้านคน และสร้างโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทย
รมว.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงการหารือกับออสเตรเลียว่า ได้ชี้แจงถึงนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หรือโมเดลเศรษฐกิจ Thailand 4.0 ของรัฐบาลที่มุ่งหวังปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้ไปสู่ "เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม" สร้างมูลค่าเพิ่มโดยเปลี่ยนการเกษตรดั้งเดิมไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ เปลี่ยน Traditional SMEs ไปสู่การเป็น Smart Enterprises และเปลี่ยน Traditional Services ไปสู่ High Value Services ซึ่งไทยเชื่อมั่นว่านโยบายเหล่านี้จะสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี พร้อมได้เชิญชวนนักลงทุนและผู้ประกอบการออสเตรเลียเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าว
พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงผลการดำเนินการภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันการค้าสองฝ่ายขยายตัวเกือบ 3 เท่าตัว โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะส่งเสริมให้ TAFTA เป็นความตกลงที่ทันสมัยตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ โดยจะทบทวนประเด็นต่างๆ เพื่อส่งเสริมและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน อาทิ การทบทวนมาตรการปกป้องพิเศษสำหรับสินค้าเกษตรบางรายการ เช่น เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์นม เนย เนยแข็ง ซึ่งไทยมีความต้องการบริโภคภายในประเทศสูง และปัจจุบันมีการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นปริมาณมาก การเปิดตลาดการค้าบริการเพิ่มเติมในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายสนใจ โดยจะได้หารือเรื่องรูปแบบและแนวทางการเจรจาต่อไป
ทั้งนี้ ในปี 2558 นิวซีแลนด์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 32 ของไทย มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 1,917.02 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปนิวซีแลนด์มูลค่า 1,323.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากนิวซีแลนด์มูลค่า 593.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 729.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่ออสเตรเลีย ในปัจจุบันเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้า 13,978 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลียมูลค่า 9,768 ล้านเหรียญสหรัฐและนำเข้าจากออสเตรเลียมูลค่า 4,210 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไทยได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 5,558 ล้านเหรียญสหรัฐ