กกพ.เตรียมศึกษาปรับค่าไฟฟ้าฐานใหม่สอดคล้องภาวะศก.-งบลงทุน 3 การไฟฟ้า,เริ่มใช้ปี 61

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 15, 2016 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.เตรียมศึกษาการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่สำหรับปี 60-63 โดยจะประกาศใช้ในปี 61 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เงินลงทุนของ 3 การไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท ขณะที่ค่าไฟฟ้าฐานจะมีการปรับทุก ๆ 3-5 ปี โดยปัจจุบันมีการปรับปรุงล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย.58 โดยมีอัตราค่าไฟฟ้าฐานอยู่ที่ 3.7556 บาท/หน่วย

"ปัจจุบันต้องยอมรับว่าการลงทุนของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งนั้นมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั้งจากการการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาทิโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา ทั้งนี้ยังมีการสร้างระบบส่งเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องมีการประเมินค่าไฟฐานครั้งใหม่ โดยค่าไฟฐานจะปรับขึ้นหรือไม่คงต้องรอผลศึกษาต่อไป ซึ่งจะเร่งให้เสร็จโดยเร็วและประกาศใช้ในปี 61"นายวีระพล กล่าว

นายวีระพล กล่าวอีกว่า สำหรับการคำนวณค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่เดือนก.ย.-ต.ค.59 จะประกาศได้ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปอัตราค่าเอฟทีได้อย่างชัดเจน ซึ่งต้องยอมรับแนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มจะสูงขึ้น ขณะที่ราคาของก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้านั้นลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังยืนยันว่าปีนี้ราคาของก๊าซฯจะอยู่ในช่วงขาลง แต่จากคาดการณ์ในช่วงต้นปีหน้าอาจจะขยับตัวสูงขึ้นอีก ขณะที่อัตราการแลกเปลี่ยนไม่ได้เป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลมากนัก

ขณะเดียวกันทางกกพ. ยังได้เตรียมการประกาศค่าไฟฟ้าชั่วคราว ที่ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าช่วงกลางวันสูงสุดที่ 5.34 บาท/หน่วย และช่วงกลางคืนที่ 2.60 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นการคำนวณแบบอัตราตามช่วงเวลาการใช้ จึงทำให้ช่วงกลางวันราคาสูงกว่ากลางคืน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมของรัฐบาลที่จะให้ยายนต์ไฟฟ้าชาร์จแบตเตอร์รี่ในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย เพื่อลดหรือไม่ทำให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค)ในช่วงกลางวัน

นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานการกำกับดูแลกิจการพลังงานของ กกพ.ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินงานและได้รับผลสำเร็จตามภารกิจสำคัญในเรื่องต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงการกำกับทั้ง 3 ด้านหลัก อาทิ การกำกับกิจการพลังงานอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ ได้มีการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า สำหรับปี 58-60 ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนพ.ย.58 พัฒนากระบวนการออกใบอนุญาตแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้หลักเกณฑ์การกำกับที่ได้ออกประกาศ

รวมถึงได้กำหนดมาตรฐานคุณภาพบริการไฟฟ้าของผู้ผลิต ผู้ส่งและผู้จำหน่ายไฟฟ้า การบริหารจัดการเพื่อความมั่นคงและเพิ่มการแข่งขันของกิจการพลังงาน ได้มีการกำกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามประเภทเชื้อเพลิงต่างๆ พร้อมสร้างความชัดเจนในบทบาทการกำกับต่อนโยบายรัฐในกระบวนการจัดหาพลังงาน เพิ่มการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ด้วยการจัดทำข้อบังคับว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่สาม (Third Party Access Regime: TPA Regime) ตลอดจนประสานประโยชน์การกำกับกิจการในภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ กกพ. จะยังคงให้ความสำคัญในทิศทางการกำกับ 3 ด้านหลัก ตามแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน คือ ด้านการกำกับกิจการพลังงานอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ ด้านการบริหารจัดการเพื่อความมั่นคงและเพิ่มการแข่งขันของกิจการพลังงาน และด้านสุดท้าย การสร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการพลังงานจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รวมทั้งดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐด้านพลังงาน แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2015) และแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ตลอดจนสนับสนุนและเร่งดำเนินการภารกิจเร่งด่วนหลายประการตามกรอบนโยบายของรัฐบาลให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย เพื่อมุ่งผลักดันผลงานในการกำกับดูแลกิจการพลังงาน


แท็ก ค่าไฟฟ้า  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ