ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้นตัวต่อเนื่องแต่อาจไม่ร้อนแรง การบริโภคภาคเอกชนที่เติบโตได้ดียังคงมีปัจจัยบวกในครึ่งปีหลัง เพราะจะได้รับอานิสงส์จากการสิ้นสุดมาตรการรถคันแรกตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นต้นไปซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังซื้อบางส่วนกลับเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจและมีโอกาสที่ยอดขายยานพาหนะจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่
อนึ่ง วันนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 2/59 ขยายตัว 3.5%YOY (เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) หรือเติบโต 0.8% หากเทียบกับไตรมาสก่อนแบบปรับฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม แรงขับเคลื่อนสำคัญอย่างการใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตดีกว่าที่คาดในครึ่งปีแรกอาจมีการชะลอการเติบโตลงในช่วงครึ่งปีหลังจากเม็ดเงินของมาตรการลงทุนขนาดเล็กที่เริ่มหมดลงประกอบกับปัจจัยฐานสูงของการลงทุนภาครัฐในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ การเติบโตในระดับสูงของภาคการท่องเที่ยวของไทยอาจมีการชะลอตัวลงหากนักท่องเที่ยวต่างชาติขาดความเชื่อมั่นจากเหตุก่อความไม่สงบในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ภาคใต้
ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังคงมีความเสี่ยงที่สำคัญ แม้การบริโภคจะส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่การเติบโตที่ต่อเนื่องอาจมีข้อจำกัดจากกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่ยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาสินค้าเกษตรที่อาจไม่ยั่งยืน ขณะที่การจ้างงานและชั่วโมงการทำงานที่ยังคงลดลงเช่นเดียวกันกับอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างเฉลี่ยที่ลดลงเช่นกัน
ด้านการส่งออกมีความเป็นไปได้สูงที่จะยังคงหดตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางและการค้าโลกที่ชะลอตัว ในช่วงครึ่งปีหลัง ต้องจับตาดูความเสี่ยงที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ คือ เหตุการณ์ Brexit ที่ได้เริ่มส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรแล้ว จึงควรเฝ้าระวังการลุกลามของผลกระทบต่อไทยผ่านช่องทางการค้าและการท่องเที่ยวในระยะต่อไป นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากฝั่งสหรัฐฯ ที่ยังมีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย