นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนส.ค. มีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดพันธบัตรไทยแล้วกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก และในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นในทิศทางเดียวกับสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของไทย ที่ขยายตัวมากกว่าที่คาด จึงทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
"เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น อาจเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจและการปรับตัวของเอกชนและเศรษฐกิจไทย จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งมีโอกาสเคลื่อนไหวและปรับเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดย ธปท.จะติดตามสถานการณ์ต่างๆ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดต่อไป" นางจันทวรรณ กล่าว