นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับยุทธศาสตร์การทำงานรับปีที่ 97 โดยจะใช้จุดแข็งที่มีอยู่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เริ่มจากการปั้นนักรบเศรษฐกิจใหม่ โดยมีแผนพัฒนาให้เกิดผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) และผู้ประกอบการหน้าใหม่ (Start up) ให้เกิดเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ในการปั้นนักรบเศรษฐกิจใหม่จะลงลึกไปถึงเกษตรกรที่จะพัฒนาให้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตร แต่จะต้องมีความรู้ด้านการค้าขายด้วย เพื่อสร้างตลาดให้กับสินค้าที่ผลิตได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอพึ่งแต่พ่อค้าคนกลาง ขณะที่กระทรวงฯ จะเร่งเปิดตลาดชุมชน หมู่บ้านทำมาค้าขาย และ Farm Outlet เพื่อให้เป็นช่องทางค้าขายให้กับเกษตรกร รวมทั้ง จะเร่งส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรมที่ใช้วัตถุดิบภาคเกษตรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งจะเริ่มต้นจากข้าว
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ จะมุ่งส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจบริการของไทยออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ เพราะคนไทยมีขีดความสามารถ ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว สุขภาพ ความงาม ก่อสร้าง ร้านอาหาร เอนิเมชั่น โลจิสติกส์ ซึ่งจะทำแผนส่งเสริมอย่างจริงจัง และจะปลดล็อคกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค โดยในส่วนของธุรกิจบริการนี้ สามารถผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นได้อีกมาก สำหรับการค้าสินค้านั้น กระทรวงฯ มีแผนปรับปรุงให้เข้มแข็ง โดยใช้การตลาดนำการผลิต ใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีผลิตสินค้า เพิ่มเพิ่มมูลค่า หนีคู่แข่ง และผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด
พร้อมกันนี้ กระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค โดยจะใช้ประโยชน์จากการเป็นศูนย์กลางเจาะเข้าสู่ตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ทั้งด้านการค้า การลงทุน และยังขยายวงออกไปยังอินเดีย จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยจะใช้แนวทางการสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน และจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ จะขยายไปยังตลาดที่มีโอกาสอื่นๆ อย่าง อิหร่าน และโอมาน เป็นต้นด้วย
สำหรับการดูแลผู้บริโภคนั้น กระทรวงฯ จะยังเดินหน้าลดค่าครองชีพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะปรับปรุง "ร้านหนูณิชย์...พาชิม" ให้มีความทันสมัย และช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนได้จริง โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยสั่งซื้ออาหาร รวมถึงบริการจัดส่งถึงบ้าน การใช้โครงการธงฟ้าเข้าไปแทรกแซงตลาด เพื่อลดค่าครองชีพในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค และการผลักดันโครงการฉลาดซื้อประหยัดใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยเป็นผู้บริโภคยุคใหม่ ที่คิดและทบทวนก่อนที่จะซื้อสินค้า เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของตนเอง