นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คาดว่าร่างพ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะมีผลบังคับใช้ในช่วงไตรมาส 1/60 หลังจากร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1-2 เดือน จากนั้นจะเสนอเข้าครม. อีกครั้ง และจะเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไปซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3-4 เดือนสำหรับขั้นตอนดังกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เดิมเป็นไปการดำเนินการตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อจะจัดทำเป็นพ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็จะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (คบน.) เข้ามาดูแล โดยมีรมว.พลังงาน เป็นประธาน จากเดิมเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งอำนาจหน้าที่ของคบน.จะเข้ามาดูแลการบริหารจัดการน้ำมัน อาทิ พิจารณามาตรการป้องกันภาวะวิกฤติ ราคา อัตราการเรียกเก็บเงินเข้า-ออก การกำหนดอัตราเพดาน รวมถึงการพิจารณาโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการลงทุนจะต้องอยู่ภายใต้ที่พ.ร.บ.กำหนด คือกองทุนฯจะต้องมีสภาพคล่องหรือมีเงินเพียงพอต่อการลงทุน ส่วนกรณีการกู้เงินนั้น จะต้องใช้เพื่อช่วยเฉพาะวิกฤติเท่านั้น
อย่างไรก็ตามภายหลังจากกฎหมายกองทนุน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วเสร็จ ทาง สนพ.จะเตรียมกฎหมายลูกรองรับ ซึ่งประกอบด้วย 3 แผน ได้แก่ แผนยุทธศาสตร์ แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และแผนการรองรับวิกฤติน้ำมันเชื้อเพลิงต่อไป