นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศจะเข้าร่วมเสนอราคาในการประมูลข้าวที่หน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ (NFA) ได้ประกาศเปิดประมูลซื้อข้าวจากรัฐบาลต่างประเทศ 250,000 ตัน ซึ่งเป็นการนำเข้าข้าวขาว 25% โดยเปิดให้รัฐบาล 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และกัมพูชา เสนอราคาในวันที่ 31 ส.ค.59
ทั้งนี้ยอมรับว่าข้าวไทยอาจจะแข่งขันได้ยาก เพราะมีราคาสูงกว่าประเทศคู่แข่ง เนื่องจากเงินบาทแข็งค่า แต่อย่างไรก็ดี หากชนะการประมูล กรมฯ จะให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจัดสรรให้กับสมาชิก เพื่อหาข้าวฤดูกาลใหม่มาส่งมอบให้ฟิลิปปินส์ต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวใหม่ปรับขึ้นได้
"การเสนอราคาประมูลครั้งนี้ ยอมรับว่ายาก เพราะราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งมาก โดยราคาส่งออก (FOB) ข้าว 25% ของไทยตันละ 388 เหรียญสหรัฐ เวียดนามตันละ 335 เหรียญฯ ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก โดยการแข็งค่าขึ้น 1 บาท ราคาข้าวไทยจะแพงขึ้นถึง 10 เหรียญฯ อีกทั้งการเสนอราคาครั้งนี้ต้องส่งถึงโกดังผู้ซื้อ จึงต้องบวกเพิ่มค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยสินค้า และค่าขนส่งไปจนถึงโกดังผู้ซื้อด้วย ซึ่งอาจทำให้ข้าวไทยแข่งขันยาก แต่กรมฯ จะพยายามให้ดีที่สุด" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศระบุ
สำหรับการเปิดชี้แจงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข (TOR) การประมูลข้าวสารสต็อกรัฐบาลปริมาณ 1 ล้านตัน แบ่งเป็น การประมูลทั่วไป 753,000 ตัน และการประมูลทั่วไปรวมทั้งเข้าอุตสาหกรรม 255,000 ตันนั้น หลักเกณฑ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก TOR เดิม โดยจะเปิดให้ผู้สนใจดูสภาพข้าวได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองคุณสมบัติวันที่ 25 ส.ค.นี้ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์และให้ยื่นซองเสนอราคาในวันเดียวกันสำหรับการประมูลข้าวทั่วไปวันที่ 29 ส.ค. ส่วนการประมูลข้าวทั่วไปและเข้าอุตสาหกรรมจะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 30 ส.ค. โดยยืนยันว่าถ้าเอกชนเสนอราคาต่ำกว่าเกณฑ์ราคาขั้นต่ำ จะไม่ขายให้แน่นอน
"การพิจารณาเปิดประมูลครั้งต่อไปนั้น จะต้องดูสถานการณ์ตลาดเป็นหลัก อาจจะเปิดระบายได้ในส่วนของข้าวเข้าอุตสาหกรรม เพราะเป็นคนละตลาดกับข้าวปกติ ซึ่งสต็อกข้าวรัฐบาลปัจจุบันมีเหลืออยู่ 9.1 ล้านตัน เป็นข้าวเข้าอุตสาหกรรมสัดส่วน 40% และยังคงยืนยันที่จะระบายข้าวจนหมดสต็อกให้ได้ตามแผนในปี 60 นี้" นางดวงพร กล่าว