นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ยังเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับภูมิภาค และอัตราการแข็งค่าของเงินบาทตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4% นั้นยังถือว่าแข็งค่าขึ้นน้อยกว่าค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการไหลเข้ามาของเงินทุนจากต่างประเทศ และบางช่วงอาจได้รับปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม คือ ผลการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 2/59 ของไทยที่ออกมาดี
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินจะยังมีความผันผวนรุนแรงต่อไปจากกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะต้องป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ ธปท.ก็จะติดตามพัฒนาการค่าเงินบาทและเงินทุนไหลเข้าอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นความผิดปกติของเงินทุนไหลเข้า เป็นเพียงการเข้ามาลงทุนเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่ดีเท่านั้น