นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบความร่วมมือไทย-จีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรถไฟไทย-จีน (โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเริ่มดำเนินโครงการให้ได้ภายในปลายปีนี้
สำหรับแหล่งเงินกู้จะมาจากทั้งงบประมาณภายในประเทศ, เงินกู้ในประเทศ และแหล่งเงินกู้อื่น เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน
"ในระหว่างวันที่ 23-24 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ดังนั้น ครม.จึงอนุมัติกรอบความร่วมมือเพื่อนำไปใช้เซ็นในการประชุมดังกล่าว" นายกอบศักดิ์ กล่าว
สาระสำคัญคือ ทั้ง 2 ประเทศ จะให้ความสำคัญกับโครงการในช่วงที่ 1 และช่วงที่ 3 คือ ช่วงกรุงเทพฯ-แก่งคอย และแก่งคอย-นครราชสีมา ในช่วงแรกก่อน หลังจากนั้นจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมช่วงแก่งคอย-มาบตาพุด และช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ในอนาคตต่อไป โดยไทยจะมีสิทธิ์ในโครงการทั้ง 2 ช่วงนี้โดยสมบูรณ์ และจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้เร็วซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ภายในปลายปีนี้
ทั้งนี้ จีนจะทำหน้าที่ศึกษาความเหมาะสมทั้งด้านการสำรวจ ออกแบบ ส่วนไทยจะรับผิดชอบเรื่องผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อม และการรับฟังความคิดเห็น และการเวนคืน
โดยสัญญาที่ 1 จะเป็นสัญญาด้านการโยธา ซึ่งจะดำเนินการโดยฝ่ายไทย เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การคัดเลือกผู้รับเหมาที่เหมาะสม ส่วนสัญญาที่ 2 เป็นเรื่องการวางระบบราง อาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้า และขบวนรถ ซึ่งในส่วนนี้จีนจะเข้ามาร่วมกับไทย
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย และสำนักงานอัยการสูงสุด ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 13 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันนี้ (23 ส.ค.) ซึ่งการประชุมวันแรก เป็นการประชุมคณะทำงานด้านเทคนิคเพื่อหารือเกี่ยวกับการประมาณการมูลค่าโครงการเบื้องต้น ร่างสัญญาของโครงการ และความคืบหน้าการดำเนินงานของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการพิจารณาร่างสุดท้ายของกรอบความร่วมมือการดำเนินการระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ (Framework of Cooperation: FOC) ฉบับใหม่
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.59) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม จะเข้าร่วมหารือคณะกรรมการฯ เพื่อเจรจาเรื่องรูปแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) ในส่วนของ EPC-2 ที่ได้ปรับใหม่ พร้อมแยกออกเป็น 3 สัญญา และจะมีการเสนอกรอบความร่วมมือการดำเนินการระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ (FOC) ที่มีการแก้ไขใหม่ หลังจากที่ผู้นำไทยและจีนได้ตกลงกันว่าจะปรับการก่อสร้างเป็นรถไฟความเร็วสูง จากเดิมเป็นรถไฟความเร็วปานกลาง และไทยจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด โดยจะมีการลงนามร่วมกันในการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ช่วงแรกจะดำเนินโครงการก่อสร้าง ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กิโลเมตร และแบ่งออกเป็น 4 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร (สถานีกลางดง - ปางอโศก) ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับรายละเอียด โดยจะเร่งหาข้อสรุปเพื่อนำไปสู่การคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างตามกำหนดในเดือนก.ย.นี้ ตอนที่ 2 จากปากช่อง - คลองขนานจิตร ระยะทาง 11 กิโลเมตร ตอนที่ 3 แก่งคอย - โคราช ระยะทาง 119 กิโลเมตร และตอนที่ 4 กรุงเทพฯ - แก่งคอย ระยะทาง 119 กิโลเมตร