นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 34.58 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.55-34.59 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทกลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเทขายดอลลาร์เพราะกลัวทางการจะเข้าดูแลเหมือนช่วงก่อน หน้านี้" นักบริหารเงิน กล่าว
ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูเป็นการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ คือ การจ้างงานนอกภาค เกษตร (Nonfarm Payroll) เดือนส.ค.
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.65 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.5767 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.10 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1167 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,546.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด, +0.13%
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ค.59 อยู่ที่ 103.36 หด
- สศอ.คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ปีนี้น่าจะยังขยายตัวได้ 1-2% เนื่องจากเชื่อว่าแนวโน้ม MPI ช่วง 5
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออกฯ เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
- นายโยชิฮิเดะ ซึกะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังจับตาดูตลาดต่างๆอย่างใกล้ชิด และพร้อมตอบสนอง
- ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่มีบทบาทมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงเร็ว
นายสตีเฟน โรช นักวิชาการอาวุโสจากมหาวิทยาลัยเยล และอดีตประธานมอร์แกน สแตนลีย์ เอเชีย เปิดเผยว่า หาก อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ขยายตัวแตะระดับ 6.7% ตามเป้าหมายของรัฐบาล ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะมีสัดส่วนถึง 1.2% ต่อตัวเลข GDP โลก