รฟท.โต้ข่าวให้บริษัทเอกชนดัดแปลงรถ JR-West 4 คันก่อนทำสัญญา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 5, 2016 18:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปฏิเสธไม่ได้ให้บริษัทเอกชนเข้าไปดัดแปลงรถ JR-West 4 คัน เป็นรถจัดเช่าพิเศษก่อนมีการทำสัญญาว่าจ้าง เป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะบริษัทเอกชนที่เข้าไปดำเนินการซ่อมแซมเพื่อติดตั้งกูบ (ผ้าใบคลุมทางเดินบริเวณข้อต่อของตู้โดยสารกับตู้โดยสาร) รถโดยสาร JR-west ซึ่งมีการว่าจ้างไปตั้งแต่ 19 ส.ค.59

พร้อมชี้แจงเหตุเพลิงไหม้รถ JR WEST ที่โรงงานมักกะสัน เป็นเหตุสุดวิสัย แต่พนักงานสามารถควบคุมเพลิงทำให้ไม่เกิดความเสียหายแก่รถไฟ

สืบเนื่องจากกรณีการเกิดเพลิงไหม้รถ JR WEST ที่โรงงานมักกะสัน เมื่อวันที่ 29 ส.ค.59 ที่ผ่านมา พร้อมกับมีการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เกิดจากการที่มีบริษัทรายหนึ่งเข้าไปดัดแปลงรถ JR-West รวม 4 คัน เป็นรถจัดเช่าพิเศษ หรือ SRT Prestige ล่วงหน้าก่อนที่จะมีการทำสัญญาจ้างกับ รฟท.อย่างถูกต้อง

นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรายงานข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยพบว่าในส่วนประเด็นเรื่องการเปิดให้บริษัทเอกชนเข้าไปดัดแปลงตัวรถนั้น ไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นเหตุเข้าใจผิด เพราะเป็นการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้าไปทำกูบรถโดยสาร JR-west พร้อมติดตั้งจำนวน 7 ชุด ซึ่งดำเนินการโดยฝ่ายงานพัสดุรถโดยสาร ไม่ใช่โครงการอนุมุติดัดแปลงรถ JR-West

ที่สำคัญการดำเนินการดังกล่าวได้ว่าจ้างไปตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.โดยมี บริษัท ภัทรภัณฑ์ มาร์เก็ตติง จำกัด เสนอราคารับจ้างติดตั้งกูบยางรถโดยสาร พร้อมติดตั้งโครงกูบผลิตด้วยเหล็ก เชื่อมประกอบแล้วทาสี และยึดต่อกับตัวรถด้วยสลัก จำนวน 7 ชุด เป็นวงเงิน 874,832 บาท และมีกำหนดส่งมอบงานภายใน 30 วัน

ส่วนโครงการดัดแปลงรถ JR-West เป็นรถจัดเช่าพิเศษ หรือ SRT Prestige เป็นอีกโครงการหนึ่งที่อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการการ รฟท.เมื่อวันที่ 30 ส.ค.59 ได้อนุมัติให้มีการดัดแปลง JR-West ก่อนจำนวน 2 คัน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้มีการอนุมัติการจัดจ้างหรือเปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามาดัดแปลงตัวรถแต่อย่างใด

นายวุฒิชาติ กล่าวต่อว่า กรณีเหตุเกิดไฟไหม้รถ JR WEST จากการตรวจสอบได้รับรายงานพบว่า เมื่อเวลา 8.30 น. วันที่ 29 ส.ค.59 เจ้าหน้าที่บริษัทภัทรภัณฑ์ฯ ได้เข้ามาดัดแปลงและติดตั้งโครงกูบ รถ บนท.ป.237 โดยใช้ขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานดังเช่นที่ผ่านมา แต่เมื่อเวลา 10.45 น. ขณะที่รื้อถอดโครงกูบเก่าออกโดยใช้เครื่องตัดแก๊สได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันดับไฟเพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ไปในวงกว้างมากขึ้น

เมื่อเพลิงดับลงเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เพลิงไหม้ใน รถ บนท.ป.237 โดยในส่วนโครงสร้างภายใน ภายนอกของตัวรถไม่มีความเสียหาย เนื่องจากอุปกรณ์ภายในตัวรถได้รื้อถอนออกมาหมดแล้วคงเหลือเฉพาะแต่โครงเหล็ก ส่วนค่าเสียหายที่บริษัทภัทรภัณฑ์ฯ ต้องรับผิดชอบ คือ น้ำยาสารดับเพลิงที่ใช้ไปในครั้งนี้ โดยบริษัทจะต้องนำถังดับเพลิงบรรจุก๊าซให้เต็มและส่งมอบคืนการรถไฟฯ

นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นอีก จึงได้สั่งการให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ เข้าควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทเพิ่มความระมัดระวังในการใช้เครื่องมือตัดแก๊ส และเครื่องมือเชื่อมไฟฟ้า หากเกิดเหตุความเสียหายแก่ รฟท.บริษัทจะต้องรับผิดชอบตามความเป็นจริงต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ