พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในการจะสนับสนุนโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อการพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ บนเนื้อที่ 61 ไร่
สำหรับความเป็นมาของโครงการนี้ คือ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือเครือ SCG มีพื้นที่ 61 ไร่ ที่บึงบางซื่อ และมีประชาชนเข้ามาบุกรุกและอยู่อาศัยกันค่อนข้างหนาแน่นถึง 300 กว่าครอบครัว จึงทำให้สภาพพื้นที่ดังกล่าวมีความเสื่อมโทรม และประชาชนที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่นี้ไม่สามารถสามารถขอสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานได้ รวมทั้งเส้นทางเข้าออกยังต้องผ่านที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจาก ร.ฟ.ท.เช่นกัน
ต่อมา SCG มีแนวคิดที่จะต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย จึงทำการจัดสร้างที่พักอาศัยขึ้น 45 หลัง ใช้งบจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน แต่จำนวนบ้านยังไม่เพียงพอรองรับกับประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้น จึงได้มีแผนจะขอความร่วมมือจากภาครัฐ โดยที่ SCG จะเป็นผู้สนับสนุนหลักในการพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย ด้วยการจัดสร้างอาคารที่พัก 6 หลัง จำนวน 165 หน่วย และจะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เช่น ทางเดินรอบบึง สวนหย่อม สวนเพื่อการเรียนรู้ เป็นต้น
สำหรับแหล่งเงินทุนนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะนำมาจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขณะที่ SCG จะยกที่ดินจำนวน 61 ไร่ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 240 ล้านบาทให้ใช้ดำเนินโครงการ โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการก่อสร้าง 18 เดือน เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนผู้มีรายได้น้อยต่อไป
"สิ่งที่ SCG มาขอวันนี้ ไม่ได้มาขอเงิน แต่มาขอให้การรถไฟฯ อนุญาตให้ใช้พื้นที่เข้า-ออกโครงการได้ และใช้เป็นที่จอดรถของโครงการได้ จะได้ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นี้เข้าออกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้มีการตั้งคณะกรรมการจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมขับเคลื่อนงานในส่วนนี้ต่อไป รัฐบาลมองว่าเป็นเรื่องที่จะทำให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัย" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
อย่างไรก็ดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการว่าปัญหาประชาชนเข้าบุกรุกพื้นที่ในลักษณะเช่นนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นในที่ดินอื่นๆ อีก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับไปดำเนินการต่อไป