นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมวันท่องเที่ยวโลก 2559 ตามที่องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) มอบหมายให้เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 26-29 ก.ย.นี้ ที่ จ.กรุงเทพฯ และ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะมีผู้นำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจาก 157 ประเทศ เดินทางมาร่วมประชุม ภายใต้แนวคิด "การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลเข้าถึง เท่าเทียม"
"เราจะใช้โอกาสนี้ โชว์ศักยภาพของภาคอีสานสู่ประชาคมโลก เพราะนี่ไม่ใช่เพียงโอกาสในเรื่องของสิทธิมนุษยชน แต่เป็นโอกาสทางการตลาดที่ดีเยี่ยมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเราอีกด้วย...เราจะโชว์ความงดงามของวิถีอีสาน และการต้อนรับอบอุ่นแบบไทยที่จะสร้างความประทับใจ จนต้องตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน" นางกอบกาญจน์ กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ จะนำเสนอใน 4 มิติ คือ 1.ประเทศไทยเป็นแก่นแท้ของการท่องเที่ยว 2.การท่องเที่ยวเป็นเรื่องมิตรภาพไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจที่เป็นผลพลอยได้ 3.ไทยพร้อมที่จะรับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล และ 4.การให้ความสำคัญทั้งเมืองหลักและเมืองรอง
"รอบนี้ จะเป็นการเปิดตัวภาคอีสานให้แจ้งเกิด เราต้องเปิดตัวภาคอีสานให้ได้ภายใน 1-2 ปีหลังจากนี้" นางกอบกาญจน์ กล่าว
พร้อมระบุว่า สิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวทุกครั้งที่เกิดปัญหา คือ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมาจากความสวยงามของท้องถิ่นวิถีไทย อันจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ก้าวเข้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
"การประชุมครั้งนี้ เราหวังสร้างภาพลักษณ์ประเทศซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว ผู้นำที่มาประชุมจะเป็นคนไปบอกให้คนมาเที่ยวบ้านเรา" นางกอบกาญจน์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในปีนี้นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึงปัจจุบัน ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว 11-12% และรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัว 15-16% โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวขยายตัวทุกตลาด ส่วนกรณีเกิดเหตุรุนแรงและการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญนั้น ที่ผ่านมายังไม่ส่งผลกระทบต่อยอดจองห้องพัก ภาครัฐและเอกชนมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่เกิดปัญหาจะรีบเข้าไปแก้ไขและใช้วิกฤติเป็นโอกาส
ด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีศักยภาพในการส่งเสริมอุตสาหกรรม Mice City แห่งที่ 5 ของประเทศ เพราะเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางทางการการค้า, การลงทุน, การศึกษา, การบริหารราชการ, การคมนาคม, การบริการทางการแพทย์ และโรงแรมที่พักสำคัญของภาคอีสาน ตามยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor : EWEC) เชื่อมโยง 5 ประเทศ คือ จีน, เมียนมา, เวียดนาม, ลาว และไทย เป็นประตูสู่อินโดจีน และจีนตอนใต้