ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.61/63 อ่อนค่าจากช่วงเช้าตามแรงซื้อดอลล์-ตลาดหุ้นร่วง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 7, 2016 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.61/63 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.57/58 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวทดสอบ High ที่ระดับ 34.65 ตอนท้ายตลาด และทดสอบ Low ที่ 34.57 บาท/ดอลลาร์

"ระหว่างวันวิ่งในกรอบระหว่าง 34.57-34.60 เพิ่มจะมาขึ้นก่อนปิดตลาด เห็นตลาดหุ้นช่วงบ่ายมีทำ Break low ลง ไปปิดต่ำด้านล่าง ก็เลยมีการซื้อดอลลาร์ขึ้นมาช่วง 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นผลจากตลาดหุ้นปรับตัวลง ดอลลาร์/บาทก็เลยมีแรงซื้อกลับ มายืนเหนือ 34.60 ช่วงท้ายตลาด"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง แนวรับ 34.50-34.55 บาท/ดอลลาร์ แนวต้าน 34.65-34.70 บาท/ดอลลาร์

"ถ้าคืนนี้ยืนเหนือ 34.60 ได้ พรุ่งนี้มาดูอีกที...ช่วงนี้ ขึ้นวันนึงลงวันนึง ดูแล้วหนักไปทางลงมากกว่า"นักบริหารเงิน
กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.57 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 101.30 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1240 ดอลลาร์/ยูโร เท่าตอนเช้า
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,487.20 จุด ลดลง 9.70 จุด, -0.65% มูลค่าการซื้อขาย 56,363.87 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 437.11 ลบ.(SET+MAI)
  • ทูตพาณิชย์ประเมินมูลค่าการส่งออกไทยในปี 60 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% จากปีนี้ เพราะมองว่าการส่งออกน่าจะดีขึ้น
กว่าปีนี้ที่ส่วนใหญ่ยังติดลบ และมองว่าเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าจะฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้เป็นผลดีต่อการส่งออกของไทย
  • อธิบดีกรมสรรพากร หนุนผู้ประกอบการธุรกิจร้านขายยาเข้ามาจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เพื่อจะ
ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ และเป็นการขยายฐานภาษี พร้อมเล็งขยายฐานภาษีไปยังธุรกิจการท่องเที่ยว และกิจการที่เกี่ยวเนื่องต่อไป
  • รมว.คลัง มีแนวคิดที่ผลักดันให้ใช้ปรับระบบการชำระราคาหลักทรัพย์และส่งมอบหลักทรัพย์ (ระบบเคลียริ่ง) มาเป็น
ภายใน 2 วันทำการ หรือ T+2 จากเดิมที่เป็นภายใน 3 วันทำการ หรือ T+3 อยู่ โดยตั้งเป้าให้ดำเนินการได้ภายในกลางปี 60
  • ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 1.8% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 3 เดือนก่อน
หน้านี้
  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจปรับตัวขึ้น 0.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน
ส่วนดัชนีพ้องเศรษฐกิจ (Index of coincident indicators) เช่น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการจ้างงาน
ใหม่ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 112.8 เมื่อเทียบระดับฐานที่ 100 ในปี 2553 ขณะที่สำนักงานคณะรัฐมนตรียังระดับการประเมินพื้นฐานไว้ว่าอยู่
ในระดับที่หยุดชะงัก
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เผยผลผลิตภาคกาคผลิตปรับตัวลง 0.9% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับเดือน
ก่อนหน้า ซึ่งเป็นการสะท้อนว่าภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการที่อังกฤษตัดสินใจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ