นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (Startup) ได้ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าหน้าการดำเนินงานตามแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (พ.ศ. 2559-2564) ของคณะทำงานแต่ละคณะ โดยคณะทำงานเพื่อเสนอแนะนโยบายและมาตรการภาครัฐเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น จะพิจารณาต่ออายุพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรที่เกี่ยวข้อง และการพิจารณาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนา Startup
สำหรับสิทธิประโยชน์ทางด้านการเงิน ปัจจุบันหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และบรรษัทประกันสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม (บสย.) ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Policy Loan) และ บสย. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่และนวัตกรรม (Start-up & Innovation) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในโครงการต่าง ๆ ดังกล่าวในคราวประชุมในช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา
อีกทั้ง การปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนให้เหมาะสมกับการพัฒนาและการเติบโตของวิสาหกิจเริ่มต้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้เร่งรัดศึกษาแนวทางการปรับปรุงเกณฑ์กำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเติม และคาดว่าจะประกาศใช้หลักเกณฑ์ใหม่ได้ในปี 2560
สำหรับคณะทำงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น ได้มีการพัฒนาแนวทางการปรับปรุงกฎหมาย การพัฒนาระบบบัญชีของวิสาหกิจเริ่มต้นและการกำหนดคุณสมบัติของ Qualified Investor และ Qualified Startup รวมทั้งได้เห็นชอบให้มีการปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 4 มาตรา เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมสำหรับ Startup และผู้ลงทุน ได้แก่ การแก้ไขกฎหมายให้เพื่อให้สามารถดำเนินการหุ้นกู้แปลงสภาพ, การทยอยให้หุ้น, การให้สิทธิการซื้อหุ้นในราคาที่กำหนด และการให้สิทธิหุ้นบุริมสิทธิ์ โดยในส่วนนี้ได้มีการหารือกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว จะเร่งดำเนินการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ได้ตั้งคณะทำงานพัฒนา Online Portal เพื่อบูรณาการข้อมูลและสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น ซึ่งจะมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นประธานคณะทำงาน โดยปัจจุบัน ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานหลากหลาย อาทิ กลุ่ม Startup ลงทะเบียน 541 ราย ภาครัฐลงทะเบียน 44 หน่วยงาน เป็นต้น
ส่วนคณะทำงานเพื่อสร้างความตระหนักและการรับรู้เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น ได้มีการจัดงานประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ Startup อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ ความตระหนักรับรู้และแรงบันดาลใจให้กับกลุ่ม Startup โดยในวันที่ 16-18 ก.ย.นี้จะมีการจัดงาน Startup Thailand & Digital Thailand 2016 ภาคใต้ ที่ จ.ภูเก็ต รวมทั้งยังมีการสร้างให้เกิดศูนย์กลางแห่งการประชาสัมพันธ์องค์ความรู้สำหรับ Startup อีกด้วย
ขณะที่คณะทำงานเพื่อส่งเสริมการบ่มเพาะวิสาหกิจเริ่มต้น ได้มีการเร่งดำเนินการจัดหลักสูตรใหม่เพื่อพัฒนาบุคลากรในสายไอทีให้ตรงตามความต้องการของตลาดในปี 2560 ซึ่งร่วมมือกับสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย จัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น จำนวน 240 คน โดยรับประกัน 150 คนมีบริษัทเข้าทำงานจริงในระยะเวลา 11 เดือน และสมาคม Thailand loT Consortium เป็นต้น รวมทั้งมีการวางแนวทางการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติให้สอดคล้งตามกรอบเศรษฐกิจใหม่และส่งเสริมให้เกิด Accelerator ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม