รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเดินทางไปราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนโครงการ Phuket Smart City และประชุมร่วมกับคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ จังหวัด ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ และตรัง รวมทั้งพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โดยนายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางในช่วงเช้า เพื่อทำพิธีเปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนาก่อสร้างและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีความปลอดภัยตามแผนพัฒนาท่าอากาศยาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยใช้งบประมาณดำเนินการโครงการสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งหลักของประเทศในการปรับปรุง อันจะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค รวมทั้งช่วยผลักดันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายต่ออย่างต่อเนื่อง
จากนั้นจะไปเปิดงาน “Startup Thailand & Digital Thailand ภูมิภาค 2016" พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การส่งเสริมภูเก็ตสู่ศูนย์กลางธุรกิจสตาร์ทอัพและเมืองอัจฉริยะ" ที่อาคารห้องประชุม ดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งการจัดงานดังกล่าวเกิดจากการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ภูมิภาคได้รับรู้และมีโอกาสในการเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้น และเป็นการเน้นย้ำจุดยืนของรัฐบาลที่มีความตั้งใจต่อการสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น รวมทั้งเพื่อสร้างต่อเนื่องของกิจกรรมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติอย่างแท้จริงและทันเหตุการณ์
ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานประชุมหารือร่วมกับ คณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต และระนอง) และเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงเวลา 17.30 น.
สำหรับโครงการ Phuket Smart City 2020 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ ให้ภูเก็ตเป็น เมืองท่องเที่ยว ที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเสริมสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อความสุขสำหรับทุกคน ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าว จึงแบ่งการพัฒนาโครงการดังกล่าวออกเป็น 7 Smart ได้แก่ Smart Economy Smart Tourism Smart Safety Smart Environment Smart Healthcare Smart Education และ Smart Governance ซึ่งในแต่ละสาขาได้มีการวางแผนโครงการต่าง ๆ รองรับ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย โดยในที่ประชุมร่วมกับคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ จังหวัด ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ และตรัง จะมีการนำแผนพัฒนาโครงการทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาด้วย