นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงพาณิชย์ เผยกระทรวงพาณิชย์พยายามศึกษาหาข้อมูลและความเป็นไปได้ที่จะขยายตลาดแป้งมันสำปะหลังไทยสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ โดยพบว่าประเทศอินเดียซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากประเทศจีน ซึ่งมีความต้องการใช้แป้งมันสำปะหลังในอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมาก เช่น สาคู บะหมี่สำเร็จรูป กระดาษ สิ่งทอ และเวชภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งในอดีตประเทศอินเดียเคยจัดเก็บภาษีนำเข้าแป้งมันสำปะหลังในอัตราที่สูง ทำให้ไทยไม่สามารถส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังประเทศอินเดียได้ในปริมาณมาก แต่ปัจจุบันภายใต้ FTA อาเซียน-อินเดีย อัตราภาษีนำเข้าได้ปรับลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะแป้งมันสำปะหลังแปรรูป ที่ปัจจุบันปรับลดลงเหลือ 6% และจะลดลงเหลือ 5% ในปี 2560
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้นำผู้ประกอบการแป้งมันสำปะหลังไทย ประกอบด้วย ผู้แทนจากสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย บจก.ซี.พี. อินเตอร์เทรด และ บจก.เอส เอ็ม เอส คอร์ปอเรชั่น เดินทางไปกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ช่วงวันที่ 5-8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยได้พบปะหารือเพื่อหาช่องทางในการเปิดตลาดแป้งมันสำปะหลังกับ รมว.พาณิชย์และอุตสาหกรรม และ รมช.เกษตรและสวัสดิการเกษตรกรของอินเดีย และได้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการอินเดียที่สนใจจะนำเข้าแป้งมันสำปะหลังไทย ซี่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทั้งสองฝ่ายแสดงความจำนงที่จะร่วมมือเพื่อพัฒนาการค้าแป้งมันสำปะหลังต่อไป
"เพื่อให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ไทยจำเป็นต้องหาช่องทางขยายตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งเป็นหลัก" นายวินิจฉัย กล่าว
ทั้งนี้นอกจากประเทศอินเดียแล้ว กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดการที่จะนำคณะผู้ประกอบการมันสำปะหลังไทย เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังในประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 26-30 ก.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะเติบโตและมีมูลค่าเพิ่มสูง