นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายการทำงานให้กับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยหลังจากการรวมหน่วยงานและภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ในภูมิภาคมาอยู่ภายใต้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพียงแห่งเดียวตามนโยบาย One Roof แล้ว สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะเป็นกลไกสำคัญในการเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าในภูมิภาคสอดคล้องกับนโยบายพาณิชย์ 4.0 เน้นการทำงานในทุกมิติทั้งเชิงภารกิจ เชิงพื้นที่และเชิงนโยบาย พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชน ภาคธุรกิจ และเกษตรกร
โดยก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดจัดทำ Workshop กำหนดแนวทางการดำเนินงานในภูมิภาค รวมทั้งจัดทำแผนยุทธศาสตร์การค้ากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม พ.ศ. 2560 - 2564 ที่สอดคล้องกับศักยภาพและตำแหน่งของพื้นที่แล้ว
สำหรับการประชุมครั้งนี้ รมว.พาณิชย์ เน้นย้ำถึงบทบาทการทำงานของพาณิชย์จังหวัด ในฐานะกลไกของกระทรวงพาณิชย์ในท้องถิ่นที่ต้องประสานทุกมิติในการดำเนินงาน ทั้งในมิติของการปฏิบัติงานตามภารกิจ (Function Based) มิติของการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเชิงพื้นที่ (Area Based) และมิติของการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์และนโยบาย (Agenda Based) เพื่อให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าภูมิภาคอย่างเต็มรูปแบบ และเท่าทันกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป ตามนโยบายของกระทรวงที่มุ่งสู่พาณิชย์ 4.0 ด้วยวิสัยทัศน์ "ฉับไว โปร่งใส มองไกล ใกล้ชิดประชาชน" พัฒนาเทคโนโลยีและระบบการทำงาน ปรับระบบข้อมูลให้ทันสมัย ให้บริการที่ฉับไว และมีประสิทธิภาพผ่านเครือข่ายกระทรวงการปฏิบัติงานของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดต้องเชื่อมโยงทั้งกระทรวงส่วนกลาง และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก พร้อมยึดมั่นธรรมาภิบาล และดำเนินงานตามนโยบาย Zero Corruption
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า บทบาทสำคัญของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในการส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้ Local Economy มุ่งส่งเสริมพัฒนาเกษตรกรไทยไปสู่เกษตรกร 4.0 ตั้งเป้าผลักดันให้เป็น Smart Farmer เพื่อยกระดับเกษตรกรให้มีความรู้ ความสามารถ มีความเข้มแข็ง และศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและนวัตกรรม รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาระบบกลไกตลาดเพื่อรองรับการเชื่อมโยงสินค้าจากตลาดชุมชนไปยังตลาดกลางสู่ศูนย์กระจายสินค้าเพื่อเชื่อมโยงสินค้าเกษตรกรไทยสู่ตลาดเพื่อนบ้าน (CLMV หรือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม) และตลาดโลก ส่งเสริม SMEs การสร้างและพัฒนา Startup ให้เป็น Smart Entrepreneur สร้างความตระหนักรู้และสนับสนุนให้มีการขึ้นทะเบียนตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการสร้างแบรนด์และให้ความสำคัญกับการออกแบบ รวมทั้งส่งเสริมและผลักดันธุรกิจบริการให้เป็นรายได้ใหม่ของประเทศ
นางอภิรดี กล่าวด้วยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดต้องปรับบทบาทเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมและพัฒนาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เศรษฐกิจภูมิภาคให้เข้มแข็ง โดยจัดทำแผนเศรษฐกิจ 4.0 และนำจุดเด่นของแต่ละจังหวัด, กลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม มาปรับปรุงพัฒนาให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่ประเทศไทย 4.0 พาณิชย์จังหวัดจะต้องปรับการทำงานให้เข้าถึงประชาชน บริหารจัดการเศรษฐกิจ การค้า และผู้ประกอบการให้มีความรู้ความสามารถ ส่งเสริมกระบวนการคิดแบบสร้างสรรค์ พัฒนาตลาดทั้งในมิติของตลาดชุมชน และตลาดยุคใหม่
ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะจัดทำโปรแกรมพัฒนาพาณิชย์จังหวัด (Disruptive Program) ที่ไม่ใช่แค่ปรับเปลี่ยน (Reform) แต่จะเป็นการพลิกโฉม (Transform) เน้นการมีบทบาทนำและเป็นที่ปรึกษาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ด้านเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดและท้องถิ่น เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและเข้าถึงประชาชน พัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่นให้มีความเป็นมืออาชีพทางธุรกิจ ส่งเสริมกระบวนการคิดแบบสร้างสรรค์ พัฒนาตลาดทั้งในมิติของตลาดชุมชน และตลาดยุคใหม่
"พาณิชย์จังหวัด ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจการค้าในเขตดูแล ตระหนักถึงศักยภาพและโอกาสการพัฒนาทางการค้าและการลงทุนในท้องถิ่น ตลอดจนมีความสามารถเชื่อมโยง และพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจตามแนวทางประชารัฐ" รมว.พาณิชย์ กล่าว