พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ส่วนกลาง และ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง) ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 4 มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจเข้าร่วม โดยนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการตามที่ กรอ.กลุ่มจังหวัดฯ ได้เสนอโครงการการยกระดับ เมืองสปาน้ำพุร้อนเค็ม และพัฒนาเส้นทางอันดามันโรแมนติกโรด อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และการสนับสนุนโครงการยกระดับเส้นทางเชื่อมโยงท่องเที่ยวอันดามัน ประกอบด้วย 1.เร่งรัดปรับปรุงเส้นทางสาย 4 (เพชรเกษม) เป็น 4 ช่องจราจร เส้นทางระนอง-ราชกรูด, ราชกรูด-ตะกั่วป่า, ตะกั่วป่า-เขาหลัก และ 2.เร่งรัดปรับปรุงเส้นทางสาย 4027 เป็น 4 ช่องจราจร และมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดและกรอบงบประมาณ
นายกรัฐมนตรียังเห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการแผนปฏิบัติการ Phuket Smart City เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ โดยมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กำหนดแนวทางการส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว
โดยโครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการออกแบบร่วมกับคนในท้องถิ่น ต่อยอดธุรกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เน้นให้เกิดการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่และการดึงดูดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศตามนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบคัสเตอร์ และโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของรัฐบาล ซึ่งโครงการ Phuket Smart City ได้กำหนกรอบ Smart City ไว้ 7 Smart ได้แก่ Smart Economy, Smart Tourism, Smart Safety, Smart Environment, Smart Healthcare, Smart Education และ Smart Governance
พร้อมกันนี้ยังได้เห็นชอบตามที่จังหวัดพังงาได้เสนอขอโครงการเคลือบผิวจราจรลดการลื่นไถลเส้นทางหมายเลข 4 และ 4311 โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับไปเร่งดำเนินการบรรจุในแผนงบประมาณปี 2560 ส่วนโครงการก่อสร้างถนนและสะพานแหล่งท่องเที่ยวเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พร้อมทั้งสั่งการให้กระทรวงคมนาคมศึกษาความเป็นไปได้ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความคุ้มค่าการลงทุน
ส่วนจังหวัดกระบี่ได้นำเสนอโครงการก่อสร้างสะพานลันตาช่วงแรก (บ้านหิน-บ้านคลองหมาก) นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับไปเร่งรัดศึกษาโครงการ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ของระบบโลจิสติกส์ในโครงการศึกษาเส้นทางรถไฟ ชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง และได้สั่งการให้จังหวัดจัดทำงบประมาณและให้ไปศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานตรังด้วย