รมช.พาณิชย์ เผยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีขออนุมัติ 1.2 พันล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการพักหนี้ชาวไร่มันสำปะหลัง 5 แสนราย เป็นเวลา 2 ปี พร้อมให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยกู้ฉุกเฉินรายละ 2 หมื่นบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้เกษตรกรชะลอการขุดหัวมันไปขาย และดึงไม่ได้ราคาตกต่ำ
"ที่ประชุมคณะกรรมการและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) วานนี้ มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า พิจารณาอนุมัติมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ได้แก่ มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นให้แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลัง เป็นเวลา 24 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.59-31 ส.ค.61 วงเงิน 1,200 ล้านบาท ครอบคลุมผู้เกษตรกร 500,000 ราย ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5% และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5%" นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ กล่าว
นอกจากนี้จะเสนอให้พิจารณาอนุมัติให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อเกษตรกร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และเพิ่มสภาพคล่อง จำนวน 500,000 รายๆ ละไม่เกิน 20,000 บาท รวมวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อเดือน หรือหากกู้เต็มวงเงิน 20,000 บาท จะชำระดอกเบี้ยเพียงเดือนละ 100 บาท กำหนดชำระคืนไม่เกิน 12 เดือน ซึ่งเกษตรกรที่ยังไม่เคยกู้เงินจาก ธ.ก.ส.สามารถมาขอกู้ในส่วนนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในช่วงที่ชะลอการขุดหัวมันไปขาย
สำหรับ 3 มาตรการที่ นบมส.เคยได้รับอนุมัติไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด, โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและการแปรรูปมันสำปะหลัง และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร จะเสนอให้ ครม.อนุมัติการดำเนินการให้เร็วขึ้น โดยเริ่มต้นโครงการวันที่ 15 ต.ค.59-31 ธ.ค.62 จากเดิมที่จะเริ่มวันที่ 1 ธ.ค.59-31 ธ.ค.62
ทั้งนี้มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันทั้งหมด รวมวงเงินหมุนเวียนทั้งสิ้น 14,800 ล้านบาท วงเงินชดเชย 1,767.73 ล้านบาท
ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า โครงการชะลอการขุดหัวมันสดที่กรมฯ ได้เสนอให้ นบมส.พิจารณาในการประชุมวานนี้นั้น ที่ประชุมไม่เห็นด้วยเพราะโครงการในปีก่อนมีเกษตรกรเข้าร่วมประมาณ 3,000 ราย แต่กลับมีหนี้เสียเป็นจำนวนมาก และได้เปลี่ยนมาเป็นโครงการปล่อยสินเชื่อเกษตรกร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และเพิ่มสภาพคล่องแทน ส่วนการเข้มงวดการนำข้ามันสำปะหลังให้มากขึ้น เพราะไทยนำเข้าหัวมันสดทั้งปีจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่บางครั้งติดเชื้อไวรัสมาด้วย จึงต้องเข้มงวดนำเข้าให้มากขึ้น โดยจะให้นำเข้าได้เฉพาะด่านถาวรที่มีด่านกักกันพืชของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เท่านั้น ส่วนด่านชั่วคราวจะไม่อนุญาตให้นำเข้าแล้ว ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการลักลอบนำเข้า