โพลกสิกรฯ คาดทั้งปีชาวจีนเข้ามาเที่ยวไทย 9 ล้านคน จัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญแค่ผลกระทบระยะสั้น

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday September 24, 2016 17:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ให้เห็นว่า ในมุมมองของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยนั้น มองว่า ประเทศไทยเป็นปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย โดยสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างมีความประทับใจมากเป็นอันดับ 1 คือ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างภูเขา ทะเล รองลงมา ได้แก่ กิจกรรมบันเทิง กีฬา อาหารไทย และกิจกรรมการช้อปปิ้ง ตามลำดับ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 41.1 มีแผนที่จะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอีก

สำหรับสถานการณ์การจัดระเบียบบริษัทนำเที่ยวของไทยที่ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า จะส่งผลกระทบในด้านจำนวนและรายได้ท่องเที่ยวบ้างในระยะสั้น โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนอาจลดลงประมาณ 300,000 คนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดที่ซื้อแพ็จเกจทัวร์เข้ามาท่องเที่ยวในไทยช่วงวันชาติจีน ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเองน่าจะไม่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ จากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าอาจจะทำให้สูญเสียรายได้ท่องเที่ยวที่แท้จริงไปมูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท ซึ่งคำนวณมาจากการใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นเม็ดเงินที่เข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง โดยไม่รวมการใช้จ่ายที่จะสะพัดไปยังธุรกิจจีนที่ดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมายและ/หรือมีการดำเนินธุรกิจที่เข้าข่ายเอาเปรียบนักท่องเที่ยว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในระยะยาวการแก้ไขปัญหาที่สั่งสมมานานของทางการไทยในครั้งนี้ พร้อมด้วยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านท่องเที่ยวของไทยและจีน น่าจะช่วยให้การให้บริการด้านการท่องเที่ยวของไทยมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว และอาจเป็นโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางกลับมาท่องเที่ยวซ้ำจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวซ้ำในไทยมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 41.1 ของนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย (ผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

"การปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของทางการไทย อาจทำให้จำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยวลดลงไปบ้างในระยะสั้น แต่มองว่าผู้ประกอบการธุรกิจคงเร่งปรับตัว น่าจะทำให้สถานการณ์ตลาดดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยยกระดับคุณภาพการให้บริการ ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว และอาจเป็นโอกาสให้ธุรกิจสามารถเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางกลับมาท่องเที่ยวซ้ำ" ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ

อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ภาครัฐควรมีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบ โดยในเบื้องต้นควรมีการให้ข้อมูลเพื่อสร้างความชัดเจนให้กับธุรกิจนำเที่ยวทั้งของไทยและจีนไม่ว่าจะเป็นรายชื่อบริษัทนำเที่ยวของไทยที่ดำเนินธุรกิจที่ชอบด้วยกฎหมายและ/หรือไม่เข้าข่ายเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการบริหารจัดการสื่อที่อาจส่งผลด้านลบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย อย่างการจัดตั้งศูนย์เพื่อให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวจีน อาทิ การชี้แจงข้อมูลจากกรณีการจัดระเบียบธุรกิจนำเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์ เนื่องจากเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีน การจัดทำเอกสาร/แผ่นผับให้ข้อมูลราคาสินค้าและบริการ สถานที่ซื้อสินค้าที่มีชื่อเสียง และคำแนะนำในเรื่องของการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเข้าใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยอาจจะขอความร่วมมือเผยแพร่ข้อมูลบนเครื่องบิน/สนามบิน/สถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งหน่วยงานภาครัฐควรมีการจัดตั้งศูนย์ให้บริการข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ผ่านบริการ Call Center ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบเข้ามาร้องเรียน

โดยในภาพรวมของตลาด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าทั้งปี 2559 จะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 9.0 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 จากจำนวน 7.93 ล้านคนในปี 2558 อย่างไรก็ดี การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างทางการไทยและองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CNTA) เมื่อวันที่ 21 ก.ย.59 เพื่อประสานความร่วมมือในการจัดระเบียบธุรกิจนำเที่ยวและยกระดับการให้บริการชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็น่าจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดีให้กับไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ