พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวคิดที่จะให้บริษัทประกันเข้ามาดูแลระบบค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการแทนรัฐว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้สมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิตไปศึกษาความเป็นไปได้ระยะเวลา 1 เดือน ว่าสามารถทำได้หรือไม่ โดยยืนยันว่า ทุกอย่างจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ รัฐบาลจะไม่ตัดสิทธิสวัสดิการเดิมที่มีอยู่ เพราะค่ารักษาพยาบาลเป็นสิทธิอันพึงมีพึงได้ของข้าราชการ แต่สิ่งสำคัญ คือ ทำอย่างไรให้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ และใช้เงินงบประมาณของแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหลายเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องการวางรากฐาน เพื่อการปฏิรูปอย่างยั่งยืนในอนาคต
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากให้สังคมเปิดใจกว้าง ร่วมกันคิดพิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย มากกว่าจะวิพากษ์วิจารณ์จนประเทศไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าได้ โดยในหลายประเทศมีการใช้ระบบนี้เข้ามาดูแลสวัสดิการข้าราชการ ทำให้เกิดความโปร่งใส ป้องกันการใช้สิทธิซ้ำซ้อน การเวียนใช้สิทธิ หรือการเบิกยาเกินควร และช่วยบังคับให้รัฐต้องดูแลส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทางอ้อมด้วย
นอกจากนี้ ในแต่ละปีรัฐต้องใช้งบประมาณดูแลค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ 60,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงได้กำหนดเงื่อนไขของการศึกษาความเป็นไปได้ว่า ข้าราชการจะต้องได้รับสิทธิสวัสดิการเหมือนเดิม และค่าประกันแต่ละปีต้องไม่มากกว่าที่รัฐบาลจ่ายอยู่ หากไม่ได้ทั้ง 2 เงื่อนไข รัฐบาลจะบริหารเองต่อไป โดยกำชับให้กระทรวงการคลัง ไปรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องข้าราชการควบคู่กับการศึกษาความเป็นไปได้ของทั้ง 2 สมาคมด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลอาจพิจารณาให้สิทธิประโยชน์บางส่วน เพื่อให้บริษัทประกันสามารถดำเนินการได้ และจะส่งเสริมระบบ e-payment ในภาคประกันภัย ตามนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ