นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับคณะกรรมการและผู้บริหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), รมว.คลัง, กรมธนารักษ์ , สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) เช้าวันนี้ว่า รฟท.มีภารกิจสำคัญคือการเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะแรก 7 เส้นทาง ระยะทาง 995 กม. ซึ่งกำลังก่อสร้าง 2 เส้นทางที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว
โครงการที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจาก ครม.ให้ดำเนินการ 2 เส้นทางล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์นี้ คือ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางจิระ และ เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร คงจะเปิดประมูลได้ในเดือน พ.ย. จากก่อนหน้านี้ นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รมช.คมนาคม คาดว่า 2 เส้นทางนี้จะเปิดประมูลได้ในเดือน ต.ค.
นายสมคิด กล่าวว่า โครงการรถไฟทางคู่ที่ผ่านการพิจารณาของ ครม.แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดประมูล เนื่องจากรอการปรับปรุงร่างทีโออาร์เพื่อเปิดกว้างมากขึ้นและบรรจุเรื่องสัญญาคุณธรรมเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งขณะนี้ร่างทีโออาร์ใกล้จะแล้วเสร็จ น่าจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท.ได้ในช่วงกลางเดือน ต.ค.59 จากนั้นจะจัดตั้งคณะกรรมการประมูลที่จะมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นเข้ามาร่วมด้วย
นอกจากนี้ ยังสั่งให้เร่งโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ที่มี 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,493 กม.ให้สามารถเริ่มดำเนินการได้ในปี 60 โดยให้เส้นทางที่ครอบคลุมทางเหนือและใต้ให้ดำเนินการก่อน ได้แก่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ วงเงินลงทุน 7.7 หมื่นล้านบาท และเส้นทางบ้านไผ่-นครพนม เงินลงทุน 6 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะนำเสนอ ครม.ในต้นปี 60
"รถไฟทางคู่เป็นรถไฟขนส่งสินค้าที่มาช่วยเรื่องโลจิสติกส์ การเชื่อมโยงได้ดีขึ้น ให้การรถไฟฯ โฟกัสและพยายามเปิดให้บริการให้ได้ในปีหน้า" นายสมคิด กล่าว