นายอาธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวในการแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 35 ว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ มองว่าผู้ประกอบการรายใหญ่และกลางถือว่ามีสถานะทางการเงินที่ค่อนข้างมั่นคง และน่าจะมีความพร้อมในการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นในไตรมาส 4/59 ประกอบการทางธนาคารก็มีการอำนวยสินเชื่อแก่ผู้มีความต้องการบ้าน ภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ต้นทุนของราคาที่อยู่อาศัยยังไม่ได้ปรับตัวสูงมาก จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อ
สำหรับความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถือว่ายังสูง จากตัวเลขยอดโอนกรรมสิทธิ์โดยรวมตั้งแต่ช่วงปลายปี 58 จนถึงเดือนเม.ย.59 ซึ่งเป็นช่วงการดำเนินมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯตลอดทั้ง 7 เดือน เติบโตได้ราว 11.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น ตัวเลขยอดโอนกรรมสิทธิ์ของอาคารชุดไทย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเติบโตกว่า 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวปรับตัวลง ซึ่งปรับลดลงไป 16% และ 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
ทั้งนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่ช่วง 5 เดือนแรก บ้านจัดสรรโดยรวม มีการเปิดตัวยูนิตใหม่ลดลงราว 30% หรือประมาณ 12,200 ยูนิต จากปีก่อนทำได้ 17,320 ยูนิต และอาคารชุด เปิดตัวลดลง 16% หรือประมณ 17,800 ยูนิต จากปีก่อน 23,340 ยูนิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เอื้อ แต่ผู้ประกอบการก็มีการเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม โดยเฉพาะอาคารสูง ตั้งแต่เดือน ส.ค.59 เป็นต้นไป จะเป็นช่วงของการเปิตดัวโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร
ขณะที่ช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 33% ของแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี ซึ่งอีกประมาณ 67% คงจะต้องไปเปิดตัวในช่วง 4 เดือนหลังของปีนี้ คิดเป็นมูลค่ารวมราว 2 แสนล้านบาท จะส่งผลทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะเติบโตราว 0-5% โดยคาดยอดขายโดยรวมทั้งปีจะอยู่ที่ 3-3.5 แสนล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 4.12 แสนล้านบาท ขณะที่ในครึ่งปีแรกของปีนี้มียอดขายแล้ว 1.44 แสนล้านบาท
ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อที่อยู่อาศัยน่าจะเป็นเรื่องของดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและเป็นเวลาค่อนข้างนาน ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจจะซื้อบ้าน และน่าจะส่งผลทำให้ตลาดระดับกลางและบนคึกคักต่อเนื่อง
"ปีก่อนมีการเปิดตัวโครงการ 1.2 แสนยูนิต คิดเป็นมูลค่า 4.12 แสนล้านบาท และในครึ่งแรกของปีนี้เปิดตัวไปแล้ว 4.06 หมื่นยูนิต คิดเป็นมูลค่า 1.44 แสนล้านบาท โดยมองในช่วงที่เหลือของปีจะมีการเปิดตัวโครงการมากขึ้นราว 67% ทำให้ปีนี้คาดว่ายอดขายโดยรวม ทั้งคอนโด ทาวน์เฮาน์ บ้านเดี่ยว จะทำได้ 3-3.5 แสนล้านบาท ซึ่งอาจจะติดลบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการปรับตัวของผู้ประกอบการ หลังจากที่ปีก่อนเปิดโครงการค่อนข้างมาก และปัจจัยภายนอกภายในที่ยังมีความเสี่ยงอยู่สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความระมัดระวังในการเปิดตัวโครงการมากขึ้น"นายปะเสริฐ กล่าว
นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ อุปนายกและเลขาธิการ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีปัญหาในเรื่องของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ตลาดจึงเติบโตค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับประเทศไทย ดังนั้น ผู้ประกอบการที่จะเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศดังกล่าวต้องเลือกลงทุนในบาง sector ที่มีความเสี่ยงน้อย
ขณะที่คาดการณ์สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในปี 60 น่าจะมีการเติบโตสอดคล้องไปกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) หรือน่าจะไม่แย่ไปกว่าปีนี้มากนัก โดยเชื่อว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะส่งผลให้เกิดแรงกระตุ้นต่อผู้ประกอบการที่จะมีโครงการใหม่ ๆ ออกมามากขึ้น