สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรมเดือนส.ค. 59 อยู่ที่ 106.91 มีอัตราขยายตัว 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 103.67 คิดเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือน เม.ย.56 ส่งสัญญาณแนวโน้มการเติบโตจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศของภาครัฐ ด้วยแรงส่งจากการลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยว โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ ผลิตภัณฑ์ยาง เหล็ก และผลิตภัณฑ์เหล็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้า
สำหรับสินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนส.ค.มีการขยายตัว ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 50.94% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากปริมารการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกเครื่องปรับอากาศขยายตัวเพิ่มขึ้น
หลอดอิเล็คทรอนิคส์และส่วนประกอบอิเล็คทรอนิคส์ การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 14.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เติบโตได้ดีในสินค้าที่เกี่ยวกับรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์และชิ้นส่วนของอุปกรณ์สื่อสาร
ผลิตภัณฑ์ยาง การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.45% เนื่องจากมีการขยายตลาดไปยังลูกค้าแถบตะวันออกกลาง
เหล็ก และผลิตภัณฑ์เหล็ก การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยบวกสำคัญจากการที่รัฐมีนโยบายสนับสนุนโครงการบ้านประชารัฐต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการลงทุนในการรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยขยายตัวเพิ่มขึ้น
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน จากสินค้าพัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีการส่งเสริมการขายทั้งตลาดภายในและต่างประเทศซึ่งทำตลาดส่งออกได้มากขึ้น
ขณะที่สินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ได้แก่ เครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ ลดลง 11.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปรับแผนการผลิตเพื่อรองรับการปรับโฉมรถรุ่นใหม่
เสื้อผ้าสำเร็จรูป (ผ้าทอ) การผลิตลดลง 15.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการประสบภาวะซบเซาของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ ยุโรป กอรปกับการที่ลูกค้าสำคัญได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับในไตรมาส 4/59 อุตสาหกรรมหลักสำคัญที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์ คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้า คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน คอนเดนซิ่ง เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิต ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ขณะที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น IC เป็นต้น เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการพัฒนาสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น, อุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าการผลิตจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1-3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการผลิตเพิ่มขึ้นในสินค้าสำคัญ เช่น ข้าวและธัญพืชผักและผลไม้และปศุสัตว์, อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในกลุ่มเส้นใยสิ่งทอ แต่จะลดลงทั้งในกลุ่มผ้าผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป