นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรหากไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ว่า การยุบสภาฯ เป็นกลไกทางการเมืองที่มีเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ สำหรับรัฐบาลที่เห็นว่ามีปัญหาจนต้องกลับไปหาประชาชนก็สามารถยุบสภาฯ ได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งถือเป็นกรณีปกติ
"ตามปกติรัฐบาลที่รอการเลือกตั้งจะเป็นรัฐบาลรักษาการชั่วคราวที่มีอำนาจจำกัดและไม่สามารถยุบสภาฯ ได้ เพราะประชาชนเลือกมาแล้ว แต่ในกรณีนี้จะแตกต่างไปจากปกติ เพราะรัฐบาลที่เป็นอยู่ในวันนี้ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญให้ถือเป็นรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญเลย ดังนั้นอำนาจใดที่รัฐบาลตามปกติมีอยู่รัฐบาลนี้ก็จะมีอำนาจนั้น" นายมีชัย กล่าว
ประธาน กรธ.กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้สามารถใช้มาตรา 44 ทำอะไรก็ได้ แต่จะต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีเกิดปัญหาเลือกนายกไม่ได้แล้วจะสามารถยุบสภาฯ นั้น ไม่ต้องใช้มาตรา 44 แต่สามารถตราเป็นพระราชกฤษฎีกาได้
พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธว่า การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการบีบให้สองพรรคการเมืองใหญ่จับมือกันเป็นรัฐบาลหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ไม่ได้บีบ
"ไม่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนคนที่จะมาตั้งรัฐบาลก็ต้องมีเสียงข้างมาก เขาจะหากันด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา หรือคุณจะไปคิดว่ามีเสียงสองเสียงก็จะไปตั้งรัฐบาล มันตั้งไม่ได้ สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มี 18 เสียง ท่านก็ต้องไปคุยกับพรรคการเมืองอื่นๆ ด้วยจนกระทั่งรวมกันได้เสียงเกินครึ่งท่านก็ตั้งรัฐบาล คุณไม่ต้องห่วงหรอก พรรคการเมืองเขาก็ต้องคุยกันจนได้"
ประธาน กรธ.ปฏิเสธที่จะแสดงคิดเห็นถึงความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกัน ว่า "ไม่รู้ อันนี้พวกคุณพูดนะ ผมไม่ตอบคำถามนี้ เพราะถ้าตอบไป คุณก็เอาผมเข้าไปเกี่ยวด้วย"