นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าธนาคารดอยซแบงก์ (Deutsche Bank- DB) ถูก Department of Justice (DOJ) ของสหรัฐอเมริกา เรียกค่าปรับจากกรณี Sub Prime ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.2008 เป็นจำนวนสูงถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สรอ. จนส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น และราคาหุ้นของ DB ตกลงอย่างมากทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดกับระบบสถาบันการเงินไทยแล้วพบว่า ธุรกรรมที่ DB ทำกับธนาคารพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่ เป็นการทำธุรกรรมเพื่อให้สภาพคล่องเงินตราต่างประเทศ โดยเป็นตราสารอนุพันธ์ที่ไม่ซ้ำซ้อน และหาก DB ประสบปัญหา รายการเหล่านั้นมีข้อตกลงที่ต้องวางหลักประกันเพื่อจำกัดความเสียหายต่อคู่สัญญา
อนึ่ง จากการที่ ธปท.ได้ประสานงานหารือกับ European Central Bank (ECB) ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล DB โดยตรง สรุปได้ว่า ฐานะและสภาพคล่องของ DB ยังไม่น่าเป็นห่วง เพียงแต่รายได้อาจไม่เป็นไปตามแผน โดย DB ยังคงมีสภาพคล่องในระดับสูง และเห็นว่ามีความเป็นไปได้ว่าค่าปรับที่ DB จะต้องจ่ายให้กับ DOJ จะไม่สูงเท่าตัวเลขที่เป็นข่าว และน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับกรณีของธนาคารอื่นที่เคยถูกปรับมาแล้ว
"ในช่วงนี้ ธปท. จึงจะได้มีการติดตามสถานการณ์ของ DB จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ถี่ และใกล้ชิดมากขึ้น" นายรณดล กล่าว