นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถานบัน (กกร.) กล่าวว่า ที่ประชุมกกร.ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 59 เป็น 3.3-3.5% จากเดิมที่ประมาณการไว้ 3.0-3.5% เนื่องจากมองว่าแนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ยังคงเป้าการส่งออกในปี 59 อยู่ในกรอบเดิมที่หดตัว -2.0% ถึง 0.0% เนื่องจากเห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง โดยเศรษฐกิจหลักต่างเผชิญความท้าทายจากการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางการค้าของโลกให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งอาจจะยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันการส่งออกของหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชียในช่วงที่เหลือของปี 59 นี้
ขณะที่ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายและทิศทางค่าเงิน อาจยังคงแกว่งตัวผันผวน ท่ามกลางการคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี ซึ่งแตกต่างจากธนาคารกลางสำคัญอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
สำหรับในปี 60 มองว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตดีกว่าปีนี้ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตอยู่ที่ 3.5-4.0% และคาดการณ์การส่งออกเติบโต 0.0-2.0% เนื่องจากจะมีเม็ดเงินลงทุนของภาครัฐในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และการเติบโตของการค้าชายแดน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศราฐกิจโลกด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุม กกร.เห็นว่าความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนยังมีโอกาสในการพัฒนาให้สูงขึ้นได้ กกร. จึงมอบหมายให้คณะทำงานด้าน Competitiveness ศึกษาจุดอ่อนของภาคเอกชนแล้วนำมาปรับปรุงพัฒนา เพื่อให้อันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งภาคเอกชนเตรียมเสนอประเด็นต่าง ๆ ในการประชุม กรอ.
ประกอบด้วย 1. การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในระดับกลุ่มจังหวัด (กรอ.กลุ่มจังหวัด) และการตั้ง กรอ. ระดับภาค เพื่อสร้างเศรษฐกิจภายในให้เข้มแข็ง
2. นโยบายคนเข้าเมืองเพื่อเตรียมความพร้อมประเทศไทยก้าวสู่ “Thailand 4.0" 3. การเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายลำและผ่านแดนของท่าเรือแหลมฉบังในการเป็น ASEAN Gateway 4. การพัฒนาคลัสเตอร์ยานยนต์เพื่อความยั่งยืน : Auto-Technopolis
5. การทบทวนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ข้อ 61 และข้อ 62 ที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อยาและเวชภัณฑ์ของหน่วยงานภาครัฐจากองค์การเภสัชกรรม 6. ปรับปรุงการให้บริการของศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ และ 7. แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย (เพื่อที่ในอนาคตจะได้ใช้ Local Content มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาบุคลากร ควบคู่กับการพัฒนาระบบขนส่งทางราง)