นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนายไฆเม บีร์กิลิโอ นัวลาร์ต ซานเชซ เอกอัครราชทูตสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทยวานนี้ว่า ไทยและเม็กซิโกได้หารือถึงกลไกที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนในระยะยาว และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือนของคณะผู้แทนนักธุรกิจในสินค้าที่มีศักยภาพ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ ข้าว และมันสำปะหลัง เป็นต้น โดยในเดือนพฤศจิกายนศกนี้ เม็กซิโกจะจัดงานแสดงสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะมีการจัดกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเชิญนักธุรกิจของไทยและเม็กซิโกเข้าร่วมงาน
โดยไทยได้ขอให้เม็กซิโกเร่งพิจารณายกเลิกมาตรการห้ามนำเข้ากุ้งจากไทยซึ่งเป็นโรคตายด่วน (EMS) ตั้งแต่เมื่อปี 2556 เนื่องจากเม็กซิโกได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบฟาร์มกุ้งในไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการส่งออกปลานิลไปยังเม็กซิโก รวมทั้งขอทราบว่าเม็กซิกจะประกาศยกเลิกมาตรการลดภาษีนำเข้าสินค้าข้าว (โควต้า) เมื่อใดอันจะส่งผลช่วยให้ไทยสามารถส่งออกข้าวไปยังเม็กซิโกได้มากขึ้นโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ซึ่งเม็กซิโกรับที่จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแจ้งผลให้ไทยทราบต่อไป
ปัจจุบัน เม็กซิโกเป็นคู่ค้าอันดับที่ 18 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในภูมิภาคอเมริกา รองจากสหรัฐฯ และบราซิล ตามลำดับ ในปี 2558 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวม 3,237.14 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 26.29 โดยไทยส่งออกไปเม็กซิโกเป็นมูลค่า 2,687.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.68 จากปีที่ผ่านมา สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และโทรสาร โทรศัพท์ และอุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนการนำเข้าจากเม็กซิโกมีมูลค่า 549.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.03 จากปีที่ผ่านมา สินค้านำเข้าสำคัญของไทย ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และลวด/สายเคเบิ้ล เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด เป็นต้น