นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 35 เผยการจัดงานภายใต้แนวคิด "NEW ERA ก้าวใหม่ ครบคุ้ม ทุกพื้นที่" มีผลตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ โดยสามารถรวบรวมผู้ประกอบการได้กว่า 200 ราย มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทกว่า 1,000 โครงการ มียอดผู้เข้าชมงานกว่าแสนคน เพิ่มขึ้นกว่า 15% จากการจัดงานครั้งก่อน และมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจากจบงานจะมียอดขายตามมาอีกไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจองซื้อภายในงานมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ตามด้วยทาวเฮ้าส์ นอกจากนี้ยังมียอดขอสินเชื่อกว่าหมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับการจัดงานครั้งก่อน
"ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสามารถระบุได้ว่ากลุ่มคนเดินงานในครั้งนี้เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ โดยมองว่ามหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้เป็นโอกาสทองในโค้งสุดท้ายของปี ที่เหล่าผู้ประกอบการได้นำโปรโมชั่นพิเศษกว่าครั้งไหนๆ มานำเสนอ หรือแข่งกันจัดแคมเปญพิเศษสำหรับงานนี้แล้ว นอกจากนี้การที่ผู้ประกอบการหลายรายได้นำสินค้าโครงการใหม่มาเปิดตัวภายในงานยังเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดผู้เข้างาน โดยเฉพาะโครงการตามแนวรถไฟฟ้าหลายสายที่เริ่มใกล้กำหนดเปิดใช้งาน และทางด่วน สมกับคอนเซ็ปต์ในการจัดงานครั้งนี้จริงๆ" นายสมนึก กล่าว
โดยโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจจองซื้อมากที่สุดเป็นสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมคิดเป็น 76.98% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 18.62% ทาวเฮ้าส์ 4.04% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝดและอื่นๆ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งผู้เข้าชมงานกว่า 27% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน ส่วนอีกประมาณ 73% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ เป็นครั้งแรก ผู้เข้าชมงานกว่า 41% อยู่ในช่วงอายุ 21-30 ปี รองลงมา 34% อยู่ในช่วงอายุ 31-40 ปี และ15% อยู่ในช่วงอายุ 41-50 ปี ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่างไม่เกิน 30,000 บาท 46% มีรายได้ระหว่าง 30,000-50,000 บาท 24% และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 10% ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี อยู่ที่ 20% ระยะเวลา 6-12 เดือน 21% และระยะเวลา 1-3 เดือน 14% ขณะที่งบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทระบุว่า ผู้เข้าชมงาน 33% ต้องการที่อยู่อาศัยระดับ ราคา 1-2 ล้านบาท 33% ต้องการระดับราคา 2-3 ล้านบาท 27% ต้องการราคา 3-4 ล้านบาท 18% และมีเพียง 6% ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท