นายสุรพล รักษาธรรมเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าผู้ประกอบการธุรกิจโรงบรรจุก๊าซแอลพีจี กล่าวภายหลังเข้าพบนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ว่า สมาคมฯหารือกับกรมฯ เพื่อรับทราบนโยบายของกระทรวงพลังงาน พร้อมทั้งร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีการขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุกแอลพีจีที่กรมขนส่งทางบกบังคับว่าจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ประเภทที่ 4 แต่พนักงานกลุ่มนี้หันไปขับรถบรรทุกขนาดใหญ่ในบริษัทขนาดใหญ่แทน เพราะมีรายได้มากกว่า ทำให้โรงบรรจุประสบปัญหาในการหาพนักงานขับรถยากมาก
นอกจากนี้ ยังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานที่มีบัตรเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในโรงบรรจุก๊าซตามกฎหมายขั้นต่ำโรงละ 1 คน เมื่อพนักงานคนดังกล่าวออกจากงานก็เกิดการขาดแคลน ดังนั้น อาจต้องมีโรงละมากกว่า 1 คน หรืออาจหาแนวทางเพื่ออกบัตรพนักงานให้ง่ายขึ้น อาทิ การอบรมและสอบผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสร้างความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ขณะเดียวกันยังประสบปัญหาถังก๊าซแอลพีจีที่ได้มาตรฐานขาดแคลนด้วย
นางจงภค โยธาทิพย์ อุปนายกสมาคมฯผู้ค้าผู้ประกอบการธุรกิจโรงบรรจุก๊าซแอลพีจี กล่าวว่า ปัจจุบันยอดขายแอลพีจีลดลง โดยเฉพาะแอลพีจีขนส่งลดลง 50% ขณะที่แอลพีจีครัวเรือนลดลง 10% สาเหตุมาจากปัจจัยจำนวนโรงบรรจุมากขึ้นและอีกส่วนการใช้ลดลงโดยเฉพาะจากภาคขนส่ง
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรมฯอยู่ระหว่างออกกฎหมายใหม่เพื่อเข้มงวดรถขนส่งก๊าซแอลพีจีให้มีมาตรฐานมากขึ้น โดยจะต้องมีรั้วปิดมิดชิดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยจะให้โรงบรรจุก๊าซเป็นผู้ตรวจสอบ หากพบว่ารถขนส่งไม่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามจำหน่ายเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุก 1 ปี โดยกฎหมายฉบับใหม่ กรมฯอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป
ส่วนปัญหาขาดแคลนพนักงานที่มีใบอนุญาตขับขี่ประเภทที่ 4 กรมฯเตรียมหารือกับทางกรมขนส่งทางบกเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว