นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า สืบเนื่องจาก พ.รบ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ที่ใช้ในปัจจุบันยังไม่สามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ใดได้อย่างจริงจัง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ SMEs ให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้แล้ว ยังช่วยในเรื่องการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วย
ร่างกฎหมายฉบับที่แก้ไขใหม่นี้ มีการปรับแก้ภายใต้ 3 หลักการใหญ่ ประกอบด้วย 1.ความครอบคลุมของกฎหมาย โดยจะให้ครอบคลุมเพิ่มไปยังรัฐวิสาหกิจด้วย ยกเว้นกรณีการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อประโยชน์ของสาธารณะเท่านั้น 2.เพิ่มนิยามของคำว่า "ผู้มีอำนาจเหนือตลาด" ให้รวมถึงธุรกิจในเครือด้วย ไม่ว่าจะเป็นแนวราบหรือแนวดิ่ง และ 3.ความมีอิสระในการบังคับใช้กฎหมาย จากที่ผ่านมามักถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง จึงจะให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสรรหา 7 คน คือ ปลัดกระทรวงการคลัง, ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งจะทำหน้าที่สรรหาคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าขึ้นมา 7 คน จากนั้นจะมีการแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานแข่งขันทางการค้าขึ้น โดยการทำงานของสำนักงานนี้ จะต้องมีการรายงานผลการดำเนินงานให้ประชาชนทราบ
นายณัฐพร กล่าวว่า หลักการที่สำคัญอีกประการของกฎหมายฉบับที่แก้ไขใหม่นี้ คือ ความมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้ จากเดิมที่จะมีเพียงโทษทางอาญาเท่านั้น ซึ่งการดำเนินคดีทางอาญามักใช้เวลานาน แต่ฉบับใหม่จะเพิ่มโทษทางปกครองเข้ามาด้วย นอกจากนี้ยังกำหนดว่าเมื่อมีการควบรวมธุรกิจ จะต้องมีการแจ้งภายใน 7 วัน อย่างไรก็ดี หากจะมีการออกกฎหมายลูกจะต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการด้วย เพื่อให้กฎหมายมีความทันสมัยและจะมีการทบทวนกฎเกณฑ์ต่างๆ ทุก 3 ปี นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ สามารถเป็นพนักงานสอบสวนได้ด้วย
"หลังจากนี้ ร่างกฎหมายจะเข้าไปที่ สนช. พอผ่านสนช.แล้ว จะต้องได้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าภายใน 270 วัน หรือ 9 เดือน นับตั้งแต่กฎหมายประกาศใช้ หลังจากนั้นอีกภายใน 6 เดือนต้องได้เลขาฯ สำนักงาน...เชื่อว่าจะเร็ว เพราะนายกฯ สั่งให้กฎหมายฉบับนี้ fast track เพราะเรารอกันมานาน ที่ delay เพราะต้องการให้พิจารณากันถี่ถ้วนที่สุด เวลาบังคับใช้จะได้ไม่มีปัญหาเหมือนฉบับเก่า...เชื่อว่าจะปลอดจากการเมืองมากกว่าเดิม เพราะของเดิมอยู่ภายใต้กรมการค้าภายใน และมี รมว.พาณิชย์เป็นประธาน แต่รอบนี้ใช้การสรรหา ซึ่งกรรมการอย่างน้อยมี 2 ท่านมาจากภาคเอกชน" นายณัฐพร กล่าว