นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติทบทวนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ในฤดูการผลิตปี 2559/2560 จากเดิมที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือน มิ.ย.59 ได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรไว้ 4 มาตรการ แต่จากสถานการณ์ผลผลิตข้าวนาปีในปีนี้ คาดว่าจะมีผลผลิตสูงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน ดังนั้น ครม.จึงมีมติทบทวนมาตรการ 2 มาตรการ ดังนี้
มาตรการแรก โครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โดยมาตรการนี้จะให้เกษตรกรนำข้าวมาเก็บไว้ในยุ้งฉางก่อน ซึ่งในเดิมจะครอบคลุมแค่เกษตรกรรายบุคคล และสหกรณ์การเกษตรเท่านั้น แต่ที่ปรับปรุงใหม่จะเพิ่มให้ครอบคลุมไปยังกลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนด้วย
โดยกลุ่มเกษตรกรจะได้รับสินเชื่อไม่เกินกลุ่มละ 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนได้รับสินเชื่อไม่เกินชุมชนละ 5 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวเปลือกนั้น เดิมให้ค่าเก็บรักษาตันละ 1,500 บาท แต่จะจ่ายให้เมื่อวันที่มาไถ่ถอนข้าวออกไปแล้ว ส่วนมาตรการที่ปรับปรุงใหม่คือ ให้เลย 1,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 500 บาทมารับได้ตอนไถ่ถอน
มาตรการที่สอง การชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ฤดูการผลิต 59/60 โดยผู้ประกอบการค้าข้าวในที่นี้หมายถึง สหกรณ์การเกษตร ไม่ใช่โรงสี ซึ่งจากเดิมจะชดเชยดอกเบี้ยให้ในอัตรา 3% ต่อปี ถ้าเก็บสต็อกไว้ตั้งแต่ 60-180 วัน แต่มาตรการใหม่นี้จะชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% ต่อปีในช่วง 60-90 วัน แต่หากเลย 90 วันไปถึง 180 วัน จะชดเชยดอกเบี้ยให้ 4% เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เก็บสต็อกข้าวไว้นานขึ้น
"ในส่วนของมาตรการที่ 2 นี้ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 366.5 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่ 8 ล้านตัน ขณะที่มาตรการแรกมีเป้าหมายที่ 2 ล้านตัน" นายณัฐพร กล่าว