นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร การกำหนดฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการโอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา 49 ทวิ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ใช้ราคาที่ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันตามความเป็นจริง หรือตามราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น แล้วแต่ว่าอย่างใดจะมากกว่ากัน มาเป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ เพื่อทำให้การจัดเก็บภาษีอากรมีประสิทธิภาพ และทำให้ฐานการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีความสอดคล้องกับฐานในการคำนวณการจัดเก็บภาษีกรณีรายได้หรือรายรับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจัดเก็บตามราคาที่ซื้อขายกันตามจริง เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษี
"ส่วนใหญ่ราคาประเมินจะต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง ทำให้หลายๆ เคส กระทรวงการคลังไม่สามารถเก็บภาษีเงินได้ได้ เพราะคนซื้อขายมักแจ้งว่าราคาต้นทุนสูงกว่าราคาประเมิน แต่หลังจากนี้ เมื่อ พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่าน การเก็บภาษีเงินได้จะเก็บจากฐานราคาซื้อขายจริง หรือราคาประเมินอันไหนสูงกว่ากันก็ใช้ตัวนั้น" นายณัฐพร กล่าว
อย่างไรก็ดี ส่วนการเก็บค่าธรรมเนียมของกรมที่ดิน ยังคงอยู่บนพื้นฐานของราคาประเมิน เพราะการเก็บค่าธรรมเนียมจะไม่ค่อยมีปัญหา เนื่องจากเก็บค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์จากมูลค่าราคาประเมิน ดังนั้นต่อให้ราคาประเมินต่ำกว่าก็จะยังเก็บได้บางส่วน แต่พอมาเก็บภาษีเงินได้ซึ่งคิดจากกำไร พอราคาซื้อขายจริงแจ้งไว้ต่ำกว่าราคาต้นทุน ก็ทำให้เก็บไม่ได้เลย