นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) กล่าวในงานสัมมนาประจำปี ธนาคารกรุงเทพ AEC Business Forum "AEC 2025" ในหัวข้อ "Meeting the Challenges and Capturing the Opportunities of AEC 2025" ว่า บริษัทมองว่าประเทศไทยมีจุดแข็งและจุดขาย จึงควรใช้จุดแข็งเป็นฐานสร้างการเติบโตในอนาคต
จุดแข็งที่สำคัญ ได้แก่ การเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ถือว่ามีคุณภาพการผลิตที่ดีมาก, ตลาดหลักทรัพย์มีปริมาณการซื้อ-ขายเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน สูงกว่าประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย, ความเชี่ยวชาญและชำนาญทางด้านการแพทย์ ส่งผลให้ต่างชาติให้ความเชื่อมั่นในการเข้ารับการรักษา ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต ภาคการบริการด้านการแพทย์ (medical care) มีผู้เข้ารับการรักษาเติบโตถึง 4 ล้านคน ,
รวมทั้งอาหารไทย ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศ ขณะที่ภาคท่องเที่ยวปีนี้ ก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากมาอยู่ที่ 30 ล้านคน และการเป็นศูนย์การแฟชั่น เช่น การจัดแสดงงานมอเตอร์โชว์ ที่สวยงามที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการตั้ง International Head Quarter ที่ไทยจะไม่ใช่แค่เป็นฐานการผลิต แต่จะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายด้วย
นายวิกรม กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียถือเป็นตลาดที่ใหญ่ โดยมีประเทศรวม 46 ประเทศ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 44 ล้านตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากรราว 60% ของประชากรทั่วโลก รวมถึงมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) คิดเป็น 25 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จาก GDP ของโลก 75 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันก็มีทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 70% ของทุนสำรองระหว่างประเทศทั่วโลกที่มีอยู่ราว 10.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงกำลังซื้อที่มีอยู่สูง โดยเฉพาะกำลังซื้อของประเทศจีน โดยมองว่าเอเชีย คือ อนาคตของไทยที่จะเป็นตัวผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้มากกว่าปัจจุบันที่เติบโตในระดับต่ำเพียง 3%
"เราต้องมีการ upgrade ตัวเอง ให้สามารถแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น ไม่ใช่เท่าเทียมกับคนอื่น โดยเฉพาะการพัฒนาในเรื่องของ innovation ประกอบกับนำเอาจุดเด่นของประเทศ ที่เป็นศูนย์กลางที่ดีที่สุด ทั้งศูนย์กลางโลจิสติกส์ และการบริการต่าง ๆ รวมถึงควรยกระดับภาคเกษตร ให้เป็นสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง บริษัทก็อยู่ระหว่างการปรับตัวในทุก ๆ ด้าน โดยนำเอาแนวทางพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นรากฐานของความพออย่างมั่นคง"นายวิกรม กล่าว