นางศรีวรรณ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปี 60 อยู่ที่ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 41 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีนี้ จากแนวโน้มของปริมาณการใช้น้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีนี้ เพราะระดับราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับ ขณะที่ประเมินปริมาณการใช้น้ำมันในปี 60 อยู่ที่ 96-97 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้แนวโน้มของปริมาณน้ำมันส่วนเกินที่อยู่ในระบบราว 2 ล้านบาร์เรล/วัน จะทยอยปรับตัวลดลง
อีกทั้งปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯในปี 60 มีแนวโน้มที่ลดลงมาอยู่ไนระดับราว 8 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันสหรัฐฯมีปริมาณการผลิตน้ำมันอยู่ที่ 9.5-9.6 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ต้นทุนที่แท้จริงของการผลิตน้ำมันเริ่มมีความชัดเจนขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมาสหรัฐฯได้เน้นการขายน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำ และไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ขณะที่ในปี 60 หากเศรษฐกิจของประเทศจีนสามารถเติบโตได้ดี และไม่มีปัญหาในเรื่องภูมิศาสตร์กับประเทศผู้ค้าน้ำมัน จะส่งผลช่วยให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) สามารถส่งออกน้ำมันไปขายในจีนได้เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยหนุนราคาน้ำมันในปี 60 ปรับเพิ่มมาได้ตามการคาดการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ในช่วงปลายปี 60 ดีมานด์และซัพพลายของน้ำมันเริ่มมีระดับที่ใกล้เคียงกัน และส่งผลให้ราคาน้ำมันเริ่มกลับมีเสถียรภาพมากขึ้น จากในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างมาก อีกทั้งแผนการลงทุนต่าง ๆ ของบริษัทที่ก่อนหน้านี้ได้มีการชะลอและยกเลิกการลงทุนก็จะสามารถนำกลับมาพิจารณาได้อีกครั้ง โดยเฉพาะการลงทุนของกธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียม ที่จะนำกลับมาพิจารณาการลงทุนได้ เพราะราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันเริ่มมีความเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้บริษัทเริ่มมีความมั่นใจในการลงทุน จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทต้องมีการควบคุมค่าใช้จ่าย เพราะราคาน้ำมันลดลงอย่างมากและมีความผันผวน
ส่วนในช่วงปลายปี 59 บริษัทประเมินว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ที่เกือบ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพราะในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มีปริมาณการใช้น้ำมันของทั้งโลกเพิ่มขึ้นเป็นปกติ