นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยถึงแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปี 59/60 ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดขณะนี้ว่า สมาคมฯ จะสนับสนุนให้สมาชิกช่วยรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิจากเกษตรกรในราคาตลาดปริมาณรวม 200,000 ตัน โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก เพื่อดูดซับผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด และผลักดันให้ราคาสูงขึ้น โดยมาตรการนี้เป็นส่วนเสริมจากมาตรการของรัฐที่ได้ออกมาแล้ว ทั้งการรับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิที่ยุ้งฉางของเกษตรกรที่ดำเนินการโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตันละ 11,700 บาท และโครงการลดต้นทุนด้วยการลดราคาปัจจัยการผลิต ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นตันละ 3,700 บาท
นอกจากนี้ วันที่ 13-15 พ.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่จากหลายประเทศทั่วโลก เช่น ฮ่องกง จีน สหรัฐฯ เป็นต้น เดินทางมาไทยเพื่อเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าว รวมถึงผลิตภัณฑ์จากข้าวของไทย คาดว่า น่าจะมีคำสั่งซื้อทันทีจำนวนมาก ประกอบกับขณะนี้อิหร่านได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโรงงานผู้ส่งออกข้าวของไทย และผ่านการตรวจสอบแล้ว 1 ราย และกำลังจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโรงงานผู้ส่งออกรายอื่นในเร็วๆ นี้ หากผ่านการตรวจสอบทั้งหมด เชื่อว่า อิหร่านจะกลับมานำเข้าข้าวจากไทยไม่ต่ำกว่า 700,000-800,000 ตันเท่ากับปริมาณที่เคยนำเข้าในอดีต
"มั่นใจว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยทำให้ราคาข้าวเปลือกที่กำลังจะออกสู่ตลาด โดยเฉพาะข้าวเปลือกหอมมะลิสูงขึ้นได้ โดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยากให้ราคาไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ตันละ 12,000 บาท" นางอภิรดี กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งเสริมให้สมาชิกซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิมาเก็บไว้ก่อนนั้น สมาคมฯ จะช่วยเหลือค่าฝากเก็บและชดเชยดอกเบี้ยให้สมาชิก ขณะนี้ได้เตรียมวงเงินไว้แล้ว 60 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับซื้อตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-15 ธ.ค.59 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก