(เพิ่มเติม) "สายการบินไทยไลอ้อนแอร์"เปิดบินตรงเส้นทางใหม่ไปนครโฮจิมินห์และกวางโจว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 26, 2016 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวว่า สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ได้ฤกษ์เปิดเส้นทางบินใหม่ไปยังต่างประเทศอย่างเป็นทางการ 2 เส้นทางคือ นครโฮจิมินห์ หรือ โฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม และเมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะบินตรงทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.นี้ โดยเส้นทางนครโฮจิมินห์ ราคาค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 980 บาท และเมืองกวางโจว ราคาค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 1,580 บาท

นายนำพล รุ่งสว่าง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการพาณิชย์.สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวว่า วันที่ 28 ต.ค.นี้ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์จะเปิดจุดบินใหม่คือนครโฮจิมินห์ บินวันละ 1 เที่ยว และเตรียมจะขยายเป็น 2 เที่ยวบินต่อวันในระยะต่อไป เพื่อรองรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว เพราะเป็นเมืองหลักของเวียดนาม

นอกจากนั้นจะเปิดจุดบินใหม่ที่เมืองกวางโจวซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจของจีน และเป็นเมืองที่คนไทยเดินทางเพื่อทำธุรกิจมากจึงเห็นศักยภาพ โดยเปิดให้บริการทุกวันๆละ 1 เที่ยวบิน

ก่อนหน้านี้ ช่วงครึ่งปีแรก สายการบินไทยไลอ้อนแอร์เปิดจุดบินใหม่ในเส้นทางต่างประเทศไปยังกรุงย่างกุ้ง และกรุงจาการ์ต้า จากเดิมที่บินไปยังสิงคโปร์ ทำให้ในปี 59 จะมีจุดบินต่างประเทศทั้งหมด 5 จุดบิน สอดคล้องกับจำนวนเครื่องบินที่รับมอบใหม่ 6 ลำ เป็นโบอิ้ง 737-900 และ โบอิ้ง 737-800 รวมทั้งหมดมีจำนวนฝูงบินเพิ่มเป็น 24 ลำ

สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ยังมีแผนขยายเส้นทางบินต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากปีนี้ได้เน้นการขยายเส้นทางในประเทศค่อนข้างครอบคลุมแล้ว โดยในปี 60 มีแผนบินไปจุดบินใหม่อย่างน้อย 3-4 เมือง ได้แก่ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม, เมืองเดนบาซาร์ และ สุราบายา ในอินโดนีเซีย, เมืองอื่น ๆ ในจีน และอินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาสิทธิการบินระหว่างกัน รวมทั้งจะบินเข้าออสเตรเลียด้วย

ส่วนเส้นทางในประเทศจะเปิดบินเส้นทางเมืองรองอย่างน้อย 3 แห่ง ได้แก่ พิษณุโลก ขอนแก่น และ ตรัง รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ

ขณะที่มีแผนจะมีการรับมอบเครื่องบินใหม่ในช่วงปี 60-61 ปีละ 6-10 ลำ

นายนำพล กล่าวว่า ปัจจุบันสายการบินไทยไลอ้อนแอร์มีรายได้จากเที่ยวบินในประเทศสัดส่วน 90% และจากเที่ยวบินต่างประเทศมีสัดส่วน 10% โดยสายการบินมีแผนจะปรับสัดส่วนให้เท่ากัน หรือ 50:50 ภายในปี 62-63

ด้านอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (load factor) ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับเฉลี่ย 80% โดยเส้นทางในประเทศมี load factor เฉลี่ยราว 90% ส่วนเส้นทางต่างประเทศมี load factor อยู่ที่ 75% และมั่นใจว่าจำนวนผู้โดยสารในปีนี้ทำได้ตามเป้าหมาย คือ มากกว่า 9 ล้านคน โดยมาจากเที่ยวบินประจำ 7.2 ล้านคน หรือเดือนละ 6 แสนคน ที่เหลือมาจากเครื่องบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์)

อย่างไรก็ดี จากนโยบายภาครัฐปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญทำให้เที่ยวบินชาร์เตอร์ไฟลท์ของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ที่รับนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลักได้รับผลกระทบราว 20% จากที่เคยมีเที่ยวบิน 100 เที่ยวบินต่อเดือน ทั้งนี้ รายได้จากชาร์เตอร์ไฟลท์มีสัดส่วน 30% ของยอดขายรายได้รวม ขณะที่รายได้จากเที่ยวบินประจำยังเป็นรายได้หลักที่มีสัดส่วนราว 70%

นายนำพล คาดว่า ต้องรอถึงไตรมาส 2 ของปี 60 ว่า ภาครัฐจะดำเนินการกับทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างไรต่อไป เพราะขณะนี้ทุกอย่างหยุดนิ่งในช่วงนี้ที่มีพระราชพิธีสักการะพระบรมศพ ส่วนจำนวนผู้โดยสารจากต่างจังหวัดยังเป็นปกติ และค่าตั๋วโดยสารของสายการบินไทยไลอ้อนก็ต่ำกว่าคู่แข่งระหว่าง 800-1,300 บาทอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีการจัดโปรโมชั่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ