ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics:TMBA) คาดส่งออกไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง หากฮิลลารีชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ เตือนความเสี่ยงนโยบายกีดกันการค้ากระทบการส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้าและเสื้อผ้า หากทรัมป์ได้รับเลือก
"ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี คาดว่าในกรณีที่นางฮิลลารีได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี การส่งออกไทยในปี 2560 จะขยายตัวได้ถึง 2.3% ในขณะที่หากนายทรัมป์ได้รับเลือก การส่งออกจะกลับมาฟื้นตัวได้ 0.5% จากความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับนโยบายกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและเสื้อผ้า จากสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ประกอบการควรมีการปรับกลยุทธ์การตลาด และการขยายการส่งออกไปสู่ตลาดใหม่" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.นี้จะกำหนดทิศทางการค้าระหว่างประเทศ โดยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของโลก ที่ผ่านมานโยบายการค้าอย่างเสรี เป็นปัจจัยผลักดันการค้าโลกให้เติบโตมาโดยตลอด ทำให้สินค้าส่งออกของประเทศต่างๆ ไปยังตลาดสหรัฐฯขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสหรัฐฯ เผชิญกับภาวะการขาดดุลการค้ากับประเทศอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะกับประเทศจีนและไทยที่ขาดดุลกว่า 328 และ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาตามลำดับ ด้วยสาเหตุนี้จึงส่งผลให้ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจึงมีการนำเสนอแนวนโยบายการค้าที่มีลักษณะในเชิงกีดกัน (Trade Protectionism) มาเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ โดยในปี 2559 นี้สถานการณ์การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ โดยตรงคิดเป็นสัดส่วน 11% ของการส่งออกทั้งหมดและเติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด ดังนั้นในปีหน้าแนวนโยบายการค้าของผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ย่อมจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยมากขึ้นกว่าในอดีต
หากพิจารณาในรายละเอียดของนโยบายการค้าของแต่ละผู้สมัคร พบว่านายทรัมป์มีทิศทางชัดเจนที่จะใช้มาตรการกีดกันต่างๆ อาทิ กำแพงภาษี และการตั้งโควต้านำเข้าสินค้าในปีหน้าทันทีกับประเทศและสินค้าที่สหรัฐฯขาดดุลด้วย โดยเฉพาะกับประเทศจีน มากไปกว่านั้นประเทศไทยก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการเกินดุลการค้าในระดับสูง สินค้าที่ถูกกระทบหลักๆ จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและเสื้อผ้า
นอกจากนี้จะได้รับผลทางอ้อมจากกลุ่มสินค้าวัตถุดิบที่ไทยส่งไปจีน โดยเฉพาะในหมวดของเคมีภัณฑ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีสัดส่วน 46% ของการส่งไปจีนทั้งหมดในปี 2558 ซึ่งนำไปแปรรูปเป็นสินค้าสำเร็จรูปส่งไปตลาดสหรัฐ ส่วนนางฮิลลารีมีแนวนโยบายการค้าแบบประนีประนอมกว่า อีกทั้งนโยบายการปรับปรุงสวัสดิการสุขภาพต่อเนื่องจากโอบามาแคร์ จะทำให้สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์มีแนวโน้มจะเติบโตได้ถึง 17% ในปีหน้า