ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 35.00/03 แข็งค่า หลังดอลลาร์อ่อนค่าจากความไม่แน่นอนเรื่องเลือกตั้งปธน.สหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 31, 2016 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.00/03 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 35.07/08 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักอื่นๆ เนื่องจากมีความ กังวลกับความไม่แน่นอนในเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลสำคัญอย่างมากต่อตลาดเงิน-ตลาดทุนของสหรัฐใน ขณะนี้ แม้ล่าสุดจะมีการรายงานว่าตัวเลข GDP ในไตรมาส 3/59 ของสหรัฐ ขยายตัวได้มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็ตาม

"บาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น เพราะดอลลาร์อ่อนค่าไปค่อนข้างมาก จากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนในการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐ" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าได้ต่อ มองกรอบไว้ที่ 34.90-35.10 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 105.23 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0973 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0911 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.125 บาท/ดอลลาร์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวัน
ศุกร์ (28 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์
ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจาก
ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการเบื้องต้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตร
มาส 3 ขยายตัว 2.9% โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากแรงหนุนของการส่งออก และการลงทุนด้านสินค้าคงคลัง ถึง
แม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง ทั้งนี้การขยายตัวที่ระดับ 2.9% ในไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่
ไตรมาส 3 ของปี 2014
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าที่ประชุมของ
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก จะสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต โดยรายงาน
ล่าสุดระบุว่า อิหร่านได้คัดค้านแผนการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปก

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.02 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 48.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 76 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 49.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • ผลสำรวจจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล/เอ็นบีซี นิวส์/มาริสต์ ระบุว่า ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา นางฮิลลารีมีคะแนนนิยม
เหนือนายทรัมป์อยู่ที่ 47% ต่อ 41% เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 4 จุด อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของนางฮิลลารีในรัฐฟลอลิด้านำหน้า
นายทรัมป์เพียงเล็กน้อยที่ 45% ต่อ 44% เนื่องจากข่าวอื้อฉาวเรื่องการใช้อีเมลส่วนตัวของเธอได้สั่นคลอนความมั่นใจของชาวสหรัฐ
  • นักลงทุนติดตามการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3/59 ของสหภาพยุโรปในช่วงเย็นนี้ ขณะที่สัปดาห์นี้มีปัจจัยสำคัญที่

นักลงทุนติดตาม คือ การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) ซึ่งจะมีการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

และรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น และติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

ในระหว่างวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเช้าวันที่ 3 พ.ย.ตามเวลาประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ