นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่ลงทุนในเครื่องชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) โดยถ้าต้องการเป็นผู้บริการรายใหม่ สามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนหรือการวางเครื่องนี้ไปหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายจริง โดยเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 100% และหักค่าเสื่อมอีก 100% ตามหลักเกณฑ์ที่จะประกาศต่อไป และที่สำคัญจะต้องเป็นเครื่องใหม่เท่านั้น
"ถ้ามีบริษัทที่เต็มใจจะให้บริการวางเครื่องดังกล่าวให้กระจายทั่วประเทศ ทั้งในต่างจังหวัด ในชนบท ในร้านค้าเล็กๆ เขาสามารถลงทุนโดยรัฐบาลจะช่วยให้สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าตัว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนสำหรับผู้ที่จะไปลงเครื่องนี้ และทำให้ร้านค้าเข้าถึงเครื่องนี้ได้มากขึ้น" นายกอบศักดิ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ครม.ยังอนุมัติให้นำค่าธรรมเนียมส่วนลดร้านค้า (Merchant Discount Rate) ที่เกิดจากการใช้บัตรเดบิต นำไปหักรายจ่ายได้ 2 เท่า ซึ่งจะทำให้ร้านค้าที่รับเครื่อง EDC สามารถลดต้นทุนในการใช้ผ่านบัตรเดบิตได้ดีขึ้น ส่งผลทำให้มีร้านค้าที่จะรับชำระเงินผ่านบัตรเดบิตมากขึ้น
"ทำให้รัฐบาลก้าวสู่ระบบ National E-payment และการติดตามข้อมูลทางบัญชีของร้านค้าได้อย่างดีขึ้นในอนาคต เป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในการปฏิรูประบบการชำระเงินของไทย" นายกอบศักดิ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า สาเหตุที่รัฐบาลจะต้องมีมาตรการดังกล่าวออกมา เนื่องจากมองว่าปัจจุบันการใช้บัตรเดบิตนั้นยังไม่สามารถเข้าถึงประชาชนจำนวนมากได้ โดยมักใช้บัตรเดบิตสำหรับเพียงแค่ถอนเงินสดจากตู้ ATM เท่านั้น ประกอบกับร้านค้าที่รับบัตรเดบิตยังมีไม่มากนัก กระจุกตัวอยู่เฉพาะตามเมืองใหญ่ อีกทั้งบางร้านค้ายังมีการกำหนดยอดชำระขั้นต่ำจากการใช้บัตรเดบิต
นอกจากนี้ เมื่อผู้ประกอบการหรือสถาบันการเงินที่นำเครื่อง EDC ไปวาง จะมีต้นทุนสูงในการวางเครื่อง จึงไม่เอื้อต่อการดูแลร้านเล็กๆ หรือ SMEs ทำให้ในปัจจุบันร้านค้าที่ใช้เครื่อง EDC จึงมีจำกัดเฉพาะร้านใหญ่ๆ เท่านั้น เหล่านี้จึงเป็นข้อจำกัดของประเทศไทยในการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ที่กระจุกตัวอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น
"การปฏิรูปเรื่องนี้ รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้ระบบการชำระเงินของประเทศ จึงมีมาตรการจะส่งเสริมให้กระจายจุดการรับชำระเงิน และกระจายเครื่อง EDC ให้ทั่วถึงครอบคลุมทั่วประเทศ และที่สำคัญตั้งใจจะไม่ลงไปแค่เฉพาะบริษัทใหญ่ๆ เท่าน้น แต่จะลงไปยังบริษัทรายเล็ก หรือ SME โดยให้มีการรองรับ National Debit Card และส่งเสริมให้มีการแข่งขันในการวางอุปกรณ์นี้ โดยอนาคตจะไม่ได้ให้มีแค่เพียงธนาคารเท่านั้นที่เป็นผู้ดำเนินการ แต่จะให้บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่จะเข้ามาเป็นผู้เล่นใหม่ในการวางเครื่องชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย" นายกอบศักดิ์ กล่าว