นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.01/05 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.01 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยตลาดยังรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการ กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนวันพรุ่งนี้ รวมทั้งยังติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์ หน้า ซึ่งขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงแล้ว
"บาทวันนี้แกว่งแคบมากๆ ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ เลย ตลาดรอผลประชุม FOMC และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 8 พ.ย." นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่า มองการเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.75 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.0993 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0971 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,504.52 จุด เพิ่มขึ้น 8.80 จุด (+0.59%) มูลค่าการซื้อขาย 54,664 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,489.90 ลบ.(SET+MAI)¶
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือน ต.ค.59 ขยายตัว 0.34% เมื่อ
- สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดว่าการส่งออกของไทยในปี 59 จะหดตัว -0.8% ถึง 0%
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ต.ค.59 ปรับลดลงจากเดือนก่อน
ประกอบกับผู้ประกอบการในกลุ่มการค้าปลีกชิ้นส่วนและอะไหล่ยนต์ และกลุ่มการผลิตยานยนต์ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงจาก ความต้องการซื้อยานยนต์ในประเทศที่ชะลอตัว เนื่องจากเป็นช่วงรอโปรโมชั่นใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้
- ผลรายงานการวิจัยด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ระบุว่า สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นกำลัง
- ญี่ปุ่น ส่งสารเตือนนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษว่า รัฐบาลอังกฤษต้องสื่อสารให้ชัดเจนมากขึ้น ในประเด็น
- สหภาพยุโรป (EU) เตรียมปฏิรูปการจัดเก็บภาษีบริษัทที่ทำธุรกิจในยุโรป เพื่อป้องกันการหาผลประโยชน์จากช่องว่าง
ของความแตกต่างระหว่างข้อบังคับด้านการจัดเก็บภาษีในกลุ่มประเทศสมาชิก ทั้งนี้ EU ได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีในรูปแบบเดียวกัน
ทั่วทั้งยุโรป ภายใต้กฎ CCCTB ที่กำหนดให้บริษัทต้องจ่ายภาษีโดยยึดตามสถานที่ตั้งของสินทรัพย์ถาวรและสถานที่ทำงานของลูกจ้าง
รวมถึงสถานที่ที่มีการจำหน่ายสินค้าเป็นหลัก