นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาหารบังกลาเทศ (H.E. Advocate Md. Qamrul Islam, MP) เข้าเยี่ยมคารวะว่า ได้มีการหารือการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการซื้อขายข้าว (MOU) ระหว่างไทย-บังกลาเทศ และความร่วมมือทางอาหาร โดยบังกลาเทศต้องการจะต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯดังกล่าวที่ได้สิ้นผลบังคับใช้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การต่ออายุบันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มปริมาณการนำเข้าข้าวของบังกลาเทศจากไทย ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ไทยมีประวัติส่งออกข้าวไปยังบังกลาเทศสูงสุดเกือบ 350 ตัน
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า บังกลาเทศเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพทางด้านการค้าและการลงทุนของไทย เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน หินปูน ผลผลิตทางการเกษตร ปอกระเจา ยาสูบ และทรัพยากรทางทะเล ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-บังกลาเทศ ครั้งที่ 4 จะเป็นเวทีของภาครัฐสองฝ่ายในการหารือประเด็นการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นเวทีในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศให้เน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
บังกลาเทศเป็นคู่ค้าอันดับ 44 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดียและปากีสถาน ตามลำดับ ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (54-58) การค้ารวมมีมูลค่าเฉลี่ย 965.61 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 58 การค้ารวมมีมูลค่า 902.79 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 59 การค้ารวมมีมูลค่า 322.36 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 58 ร้อยละ 9.60 โดยในปี 2558 ไทยส่งออกสินค้าไปบังกลาเทศมีมูลค่า 858.61 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าสินค้าจากบังกลาเทศมีมูลค่า 44.18 ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เม็ดพลาสติก ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ ปูนซิเมนต์ เหล็ก เส้นใยประดิษฐ์ เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป สัตว์น้ำสด/แช่เย็น/แช่แข็ง/แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด เป็นต้น