นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.94/96 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.96/98 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะนักลงทุนติดตามดูการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาค เกษตรของสหรัฐ (Nonfarm Payroll) ในคืนนี้ ซึ่งหากตัวเลขออกมาไม่ดี ก็มีแนวโน้มให้ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงได้
"วันนี้ยังไม่ค่อยมีปัจจัยอะไร ต้องรอดูตัวเลข Nonfarm ของสหรัฐฯ คืนนี้ก่อน ถ้าออกมาไม่ดี ดอลลาร์ก็คงอ่อนค่า" นัก
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.90-35.00 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.92 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.91/93 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1100 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1090/1092 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.940 บาท/ดอลลาร์
- สกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังศาลสูงสุดของ
- ดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งสหรัฐ หลังจากผลสำรวจระบุว่า
- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำ (Nonfarm Payroll) เดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 รายใน
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับ
- พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงในวันนี้ โดยการอ่อนตัวลงของราคาพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยปรับตัวขึ้น
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง
สัญญาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจาก สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด และการผลิตน้ำมันประ จำเดือนต.ค.ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
- นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ หลังจากการประชุมอย่างไม่เป็นทางการหลายครั้งระหว่างกลุ่ม
- นายมิเชล ซาแปง รมว.คลังฝรั่งเศส คาดว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะขยายตัวได้ 1.3-1.5% ในปีนี้ หลังจากเผชิญ
ภาวะซบเซาในไตรมาส 2 และ 3 พร้อมยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 1.5% ของ
รัฐบาล อย่างไรก็ดี แม้รัฐบาลฝรั่งเศสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยืนยันที่จะลดอัตราการว่างงาน และทำให้สถานะ
การเงินดีขึ้น